เมียตำรวจ ร้องถูกสามีเมากัญชาทำร้ายร่างกาย-ขับรถชน ซ้ำยังพบนอกใจมีสัมพันธ์กับเมียตำรวจโรงพักเดียวกัน ฟ้องผู้บังคับบัญชา บอกไม่ขอยุ่ง

เมียตำรวจ ร้องถูกสามีเมากัญชาทำร้ายร่างกาย-ขับรถชน ซ้ำยังพบนอกใจมีสัมพันธ์กับเมียตำรวจโรงพักเดียวกัน ฟ้องผู้บังคับบัญชา บอกไม่ขอยุ่ง

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2567 นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา น.ส.เพชรรัตน์ จันทร์บัว ชาวจังหวัดอยุธยา แจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางหลังถูกสามีตำรวจยศ ส.ต.อ. เป็นตำรวจชุดสืบสวน สังกัดตำรวจภูธรสัตหีบ ทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย และขับรถชนจนกระดูกหัวเข่าแตก

โดย น.ส.เพชรรัตน์ ผู้เสียหายเล่าว่าตนเองอยู่กินจดทะเบียนสมรสกับสามีตำรวจคนนี้มาห้าปี แต่ไม่ได้มีลูกด้วยกัน ตลอดเวลาอยู่ด้วยกันตนเองดูแลครอบครัวและออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในบ้าน ก่อนหน้านี้มีเงินเก็บ 4,000,000 - 5,000,000บาท ก็นำมาเลี้ยงสามีทั้งหมด แต่ที่ผ่านมา สามีของตนเองเป็นคนติดกัญชาเวลาเสพกัญชาจนเมา ก็จะทำร้ายตบตีตนเองตลอด มีอยู่วันหนึ่งสามีกำลังจะขับรถออกไปข้างนอกเวลากลางคืน ซึ่งขณะนั้นสามีก็กำลังเมากัญชาตนเองจึงห้าม ปรากฏว่าสามีกลับขับรถชนตัวเองจนกระดูกหัวเข่าแตก

ก่อนหน้านี้ตนเองเคยไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชาทั้งผู้กำกับสถานีและสารวัตรหัวหน้างาน เรื่องการเสพกัญชาและทำร้ายร่างกาย แต่ปรากฏว่า ผู้กำกับบอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวให้กลับไปคุยกันเองที่บ้าน ส่วนสารวัตรก็บอกว่า กัญชาไม่ผิดกฎหมาย อีกทั้งตำรวจในสถานีก็ไม่รับแจ้งความเรื่องทำร้ายร่างกาย เธอจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนั้นก่อนหน้านี้สามีเธอยังเคยข่มขู่ว่ามีปืน จึงกังวลว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต

ส่วนสาเหตุที่สามีชอบทำร้ายร่างกายตัวเองส่วนหนึ่ง เป็นเพราะช่วงปีที่แล้วตัวตนเองจับได้ว่าสามีมีผู้หญิงคนอื่น พบว่าเป็นพยาบาลทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพัทยา ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวเองเคยไปหาพยาบาลคนนี้มาครั้งหนึ่งแล้วโดยฝ่ายหญิงยืนยันว่าจะเลิกคุยแต่ปรากฏว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาก็ยังมีการติดต่อกับสามีตัวเองอยู่ และนอกจากหญิงพยาบาล สามีตัวเองก็ยังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคน ที่เป็นเมียของตำรวจโรงพักเดียวกัน ซึ่งเมียของตำรวจคนนี้ ก็เคยโทรศัพท์มาบอกกับตัวเองยืนยันว่า ได้เสียกับสามีของเธอแล้ว

ซึ่งที่ตนเองมาแจ้งความวันนี้เพราะอยากได้ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากไปแจ้งความดำเนินคดีสามีฐานทำร้ายร่างกายตำรวจก็ไม่รับแจ้งความทำให้ตนเองต้องอยู่อย่างหวาดระแวงและตัดสินใจหนีกลับไปอยู่บ้านที่จังหวัดอยุธยา ตนเองยืนยันว่าหลังจากนี้พร้อมที่จะหย่าร้างแยกทางกับสามี และไม่กลับไปคืนดีอีกต่อไป

ขณะที่นายธมนันท์ บอกว่าหลังจากนี้ฝากจเรตำรวจ และ ผู้การตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบนายตำรวจคนดังกล่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมการเสพกัญชา เพราะมองว่าเป็นตำรวจเสพกัญชาจะปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างไร ในส่วนของนายตำรวจ สภ. สัตหีบที่ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีกับสามีตำรวจฐานทำร้ายร่างกาย แล้วไม่ยอมรับแจ้งความก็อยากให้ดำเนินคดีฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ม.157 ด้วย

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ