กล้องวงจรปิด เวลา 19.50 น. วันที่ 8 ต.ค.67 จับภาพ มุมแรก จับภาพได้ในขณะที่ ผู้ต้องหาเดินเท้ามายังบ้านพัก นางพิชญา อายุ 71 ปี เจ้าของร้านค้าชำ ที่ ซ.ด่านสำโรง 30 ม.8 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ขณะเฝ้าร้านคนเดียว ถูกคนร้าย สวมแมสก์ขาว ใส่แจ็กเก็ต แขนยาว สีดำ คลุมฮู้ด สะพายเป้ลายการ์ตูน สีขาว – ดำ ลอกคอ กระชากสร้อย พร้อม ทุบตีทำร้าย ลากร่าง ไปกับพื้นร้าน จน นางพิชญา ตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด แม้พยายามดิ้นขัดขืน แต่ไม่อาจสูงแรงคนร้ายได้ ก่อนคนร้าย กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และ พระเลี่ยมทอง 1 องค์ วิ่งหลบหนี จากนั้น นางพิชญา พยายามกระเสือกกระสน หอบร่างบาดเจ็บ วิ่งไล่ตามไป ก่อนพบ ชิ้นส่วนสร้อยทองและพระเครื่องตกอยู่ห่างบ้านราว 50 เมตร ส่วนคนร้ายวิ่งหนีไปได้ไร้ร่องรอย

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ พบเบาะแส กล้องวงจรปิด ใน ซ.ด่านสำโรง 30 พบ ผู้ก่อเหตุวิ่งออกไปทางปากซอย ก่อนขึ้นรถสองแถวหลบหนีไป ตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้า ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ล่าสุด เวลา 17.00 น. วันที่ 23 ต.ค.67 พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ สั่งการให้ พ.ต.ท.จุลินทร์ ตลาดธานี รอง ผกก.สส. นำชุดสืบสวนปูพรมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย หลังพบเบาะแสว่า คนร้ายอาจหลบหนี ไปย่าน ต.บางด้วน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ห่างจุดเกิดเหตุราว 4 กม. ซึ่งคาดว่าอาจเป็นชาวบ้านในละแวกดังกล่าว กระทั่งพบข้อมูลผู้ต้องสงสัย รูปพรรณสัณฐาน ตรงกับคนร้าย ที่แท้เป็น “หญิงผมสั้น” ท่าทางคล้ายผู้ชาย ชื่อ นางชญานิน โพธิ์นอก อายุ 40 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น อาชีพ หมอนวดแผนโบราณ พักอยู่ใน ซ.บางด้วน 19 เคยรับจ้างนวดตัวจับเส้นให้ “หญิงชรา” ในละแวกบ้านและชุมชนใกล้เคียง

กระทั่ง 20.00 น. พ.ต.ท.จุลินทร์ ตลาดธานี รอง ผกก.สส. นำกำลังชุดสืบสวน ไปควบคุมตัว นางชญานิน ขณะกำลังเดินสะพายเป้ลายการ์ตูน สีขาว - ดำ ใบเดียวกับ คนร้ายก่อเหตุคดีชิงทรัพย์ นางพิชญา ตำรวจจึงเร่งสอบสวน

ก่อน นางชญานิน ให้การด้วยสีหน้าตกใจ ยอมรับว่า เป็นคนร้ายก่อเหตุบุกชิงทอง นางพิชญา จริง โดย ตนทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณ รับนวดเพื่อสุขภาพ ทั้ง นวดตัว และ จับเส้น ให้กลุ่ม สาวใหญ่ และ หญิงชรา คิดค่านวดครั้งละ 59 บาท ก่อนหน้านี้ เคยรับจ้างไปนวดให้นางพิชญา จนรู้จักกัน และ รู้ว่า นางพิชญา ใส่สร้อยทอง เฝ้าร้านค้าชำเพียงคนเดียว

โดยช่วงนี้ ตนมีปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากต้องเลี้ยงลูก อายุ 9 ขวบ เพียงคนเดียว ส่วนสามี ไม่ได้ทำงาน จึงเกิดความคิดชั่ววูบ ใส่แจ็กเก็ตคลุมหัวปิดบังใบหน้า บุกไปหา นางพิชญา ก่อนทำทีขอซื้อ น้ำอัดลม 1 ขวด จังหวะที่ นางพิชญา เผลอจึงล็อกคอกระชากสร้อยและลากตัวเข้าไปในห้อง ก่อนรีบวิ่งหนี หากแต่ ชิ้นส่วนสร้อยและพระเลี่ยมทอง หลุดจากมือจึงไม่ได้ของกลางไป

เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ หลังตรวจสอบข้อมูลพบว่า นางชญานิน เคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 1 บาท ซึ่ง ผู้เสียหายทุกรายเป็นหญิงสูงอายุ ซึ่งเป็น ลูกค้านวดแผนโบราณ ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และ บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ส่งพนักงานสอบสวน พร้อม แจ้งอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มในเหตุก่อนหน้านี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสมุทรปราการ รายงาน