ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวงปู่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) นำโดย ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว รอง สว. ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. , จ.ส.ต.ฉัตรชัย โตจิตร, จ.ส.ต.วันชนะ เพ็ญชาติ, จ.ส.ต.วศิน จารุวรรณธนะ  ผบ.หมู่  ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.  ร่วมกันจับกุม นายกฤษณ์ฯ อายุ 49 ปี โดยกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม”พร้อมด้วยของกลาง ป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 2 แผ่น, รถยนต์กระบะสีเทา 1 คัน และ ป้ายภาษีประจำรถปลอม 1 แผ่น

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่  20 ตุลาคม 67 เวลาประมาณ 21.50 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า รถยนต์กระบะสีเทา แผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพ จะสัญจรผ่านมาในพื้นที่รับผิดชอบ เป็นรถที่สวมทะเบียนปลอม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบว่ามีรถยนต์กระบะสีเทา แผ่นป้ายทะเบียนกรุงเทพ สัญจรผ่านมา จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่ ชื่อนายกฤษณ์ฯ อายุ 49 ปี ขอตรวจสอบเอกสารสำคัญประจำรถ ผู้ต้องหาได้แสดงภาพในโทรศัพท์ มือถือ เป็นภาพ รายการจดทะเบียน ของรถหมายเลขทะเบียนพระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่ตรงกับแผ่นป้ายทะเบียนที่ติดมากับรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายเลขตัวถังตรวจสอบ พบว่ารถยนต์คันดังกล่าว จดทะเบียน พระนครศรีอยุธยา และจากการตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ พบว่าจดทะเบียนกับ รถยนต์กระบะสีเทา โตโยต้ารีโว่ และ แผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าวมีรูปแบบลายน้ำ ที่ไม่สะท้อนแสงตามลายน้ำที่ถูกต้อง และแผ่นภาษีประจำปียังเป็นข้อความแสดงว่าป้ายภาษีประจำรถ หมายเลขทะเบียน ยี่ห้อ MITSUBISHI ซึ่งข้อมูลไม่ตรงความเป็นจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม”

จากการสอบถามเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อรถคันกล่าวมาตั้งแต่ 2566 โดยติดต่อจากผู้ขายผ่าน facebook กลุ่ม รถหลุดจำนำ (จำชื่อกลุ่มไม่ได้) โดยผู้ขายได้ประกาศขายว่า เป็นรถหลุดจำนำราคา 135,000 บาท ผู้ต้องหาสนใจจึงติดต่อขอซื้อ โดยนัดรับรถกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตอนรับรถได้รับป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา และ ภาพถ่ายสำเนาจดทะเบียนหมายเลขทะเบียน พระนครศรีอยุธยา โดยชำระเงินผ่านการโอนเงิน แต่ขณะนั้นผู้ต้องหาไม่มีเงินจึงไปยืมพี่สาว และให้พี่สาวโอนเงินให้ เมื่อได้รถมาแล้ว ผู้ต้องหาตรวจสอบพบว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์รถเป็นของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เชื่อว่าจะเป็นรถที่ติดไฟแนนซ์ ผู้ต้องหาจึงได้หาซื้อแผ่นป้ายทะเบียน ใน facebook กลุ่ม รับทำป้ายรถหลุดจำนำ (จำชื่อกลุ่มไม่ได้) ต่อมาพบกับผู้ใช้รายนึง (จำชื่อไม่ได้)ประกาศรับทำป้ายทะเบียน ผู้ต้องหาจึงติดต่อไปแจ้งว่าต้องการป้ายมาใส่กับรถได้ตกลงราคากัน ประมาณ 9,000 บาทและนัดมอบเงินสดกันที่ จังหวัดนครปฐม ส่วนป้ายทะเบียนและป้ายภาษี ผู้ขายได้ส่งพัสดุมาให้ในภายหลัง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัย การซื้อขายรถหลุดจํานําราคาถูก  ไม่มีเล่มทะเบียน จะไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ จดทะเบียน ทําประกันภัย หรือเสียภาษีรถได้ตามปกติ ส่งผลให้ไม่สามารถใช้งานรถบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งรถหลุดจำนำที่ไม่มีเล่มทะเบียนรถส่วนใหญ่ อาจเป็นรถสวมทะเบียน ติดไฟแนนซ์อยู่ หรืออาจมาจากแหล่งที่ผิดกฎหมาย เป็นรถใช้ก่ออาชญากรรมกรือถูกขโมยมา เสี่ยงต่อการถูกยึดคืน หรือถูกดําเนินคดีได้ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ที่สนใจซื้อรถหลุดจํานําราคาถูก ไม่มีเล่มทะเบียน จึงควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน