คนร้ายสารภาพ อุ้มรีดนักธุรกิจชาวจีนมาจากความแค้นส่วนตัว
พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมพร้อมกับชุดคลี่คลายคดีที่ สน.สุทธิสาร โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนจะมีการแถลงข่าว พร้อมของกลางซึ่งเป็นเสื้อผ้าของผู้ก่อเหตุที่ใช้ใส่ตอนก่อเหตุ เคเบิลไทล์ที่ใช้มัดมือมัดเท้าผู้เสียหาย ซึ่งของเหล่านี้กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใส่ถุงดำทิ้งเอาไว้หน้าบ้าน นอกจากนี้ยังมีเงินสดสกุลเงินหยวนที่ผู้ก่อเหตุได้นำเงินสดไปแลกมา
พลตำรวจตรี นพศิลป์ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุจนถึงตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 จาก 6 คน ประกอบไปด้วย นายหลิวบู และนางสาวหยางเจิน ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ซึ่งนายหลิวบู ถูกจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะเช็คอินเพื่อจะขึ้นเครื่องหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา ส่วนนางสาวหยางเจิน ถูกจับกุมได้ที่บ้านเช่าย่านลาดพร้าววังหิน
จากการสอบปากคำทั้งคู่ให้การสารภาพว่า เป็นผู้ร่วมก่อเหตุรีดทรัพย์เงินผู้เสียหายครั้งนี้ สาเหตุมาจากเรื่องของความแค้นส่วนตัว เนื่องจากว่านางสาวหยางเจิน เป็นอดีตภรรยาของหนึ่งในผู้เสียหาย ก่อนจะเลิกรากันไป จากนั้นนางสาวหยางเจิน ก็ไปมีสามีใหม่นั่นก็คือนายหลิวบู ระหว่างที่คบกันก็มีการเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังว่านางสาวหยางเจิน เคยถูกผู้เสียหาย กดขี่ และทำร้ายร่างกาย หลังนายหลิวบู ทราบเรื่องก็เกิดความแค้นใจตามภรรยา
ต่อมานายหลิวบู จึงได้วางแผนที่จะปล้นเงินผู้เสียหาย โดยได้มีการติดต่อนายตง ซึ่งเป็นชาวจีน จากนั้นนายตง ก็ได้ไปติดต่อผู้ก่อเหตุอีก 3 รายซึ่งเป็นชาวพม่า ก่อนจะไปรวมตัวกันที่บ้านเช่าย่านลาดพร้าววังหินเพื่อทำการวางแผน โดยให้อดีตภรรยาของผู้เสียหายทำทีติดต่อไปหาผู้เสียหายว่าจะมีคนนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินสด โดยให้เตรียมเงินสดเอาไว้จำนวน 3,200,000 บาท แล้วจะมีคนเข้าไปเอาที่บริษัทในซอยรัชดาภิเษก 24
หลังจากอดีตภรรยาโทรหาผู้เสียหายเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเพียงแค่ 15 นาที กลุ่มคนร้ายก็ได้บุกเข้าไปบริษัทของผู้เสียหายตามที่เห็นภาพในกล้องวงจรปิด ก่อนจะปล้นเงินสดได้จำนวน 3,200,000 บาท ที่อยู่ในบริษัท รถยนต์ และเงินที่ติดตัว ต่อมาคนร้ายก็ได้พาผู้เสียหายขึ้นไปยังรถยนต์ฮอนด้าเอชอาร์วี ซึ่งเป็นรถของผู้เสียหาย และพาขึ้นรถเก๋งโตโยต้าอเวนซ่าอีกหนึ่งคน
ต่อมากลุ่มคนร้ายได้พาผู้เสียหายขับรถออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปยังวงเวียนบางเขน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครนายก แล้วพาผู้เสียหายไปอยู่ในซอยเปลี่ยว จำนวนหนึ่งคืน แล้วได้มีการขู่บังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินดิจิทัลอีก 270,000 USDT โดยให้เงื่อนไขว่าถ้าหากไม่โอนก็จะถูกฆ่าทิ้ง
หลังผู้เสียหายโอนเงินดิจิทัลให้คนร้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลุ่มคนร้ายก็ได้ขับมาส่งผู้เสียหายที่ซอยนวมินทร์ 100 ซึ่งผู้เสียหายได้เรียกให้เพื่อนมารับก่อนจะเข้ามาแจ้งความ ส่วนกลุ่มคนร้ายก็ได้กลับไปยังบ้านเช่าย่านลาดพร้าววังหินอีกครั้ง ก่อนจะแบ่งเงินแล้วแยกย้ายกันไป ส่วนนายหลิวบู และนางสาวหยางเจิน ได้เดินทางไปที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อนจะวกกลับส่งนายหลิวบู ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ จนกระทั่งถูกจับกุมในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน