จากกรณี เพจอีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า มีคนร้ายบุกเจาะตู้เซฟวัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ กวาดเงินสดในเซฟไปร่วมกว่า 6.5 ล้าน ทางเจ้าอาวาสและกรรมการวัดอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย แถมยังสั่งทุกคนให้ช่วยกันปิดข่าว ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่โต ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ต่อมา จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลโชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จึงมีการลงพื้นที่ พบบริเวณที่เกิดเหตุเป็นกุฏิหลังเก่าของเจ้าอาวาส ภายในกุฏิติดกล้องวงจรปิดทุกมุม แต่อ้างใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ ทางเจ้าอาวาส ยังพยายามหลบกล้องที่ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ พร้อมกับพูดว่าอย่าถ่ายเลยโยม อาตมาอยากอยู่เงียบๆ ไม่อยากเป็นข่าวและหลวงพ่อขอบิณฑบาตไม่ให้ออกข่าว

แต่อย่างไรก็ เจ้าอาวาส ก็ได้ยอมเล่าว่า กุฏิดังกล่าวนี้เป็นกุฏิหลังเก่าที่หลวงพ่อจำวัด ซึ่งพอได้กุฏิหลังใหม่ หลวงพ่อก็ย้ายมาจำวัดที่กุฏิหลังใหม่ โดยไม่ได้จำวัดอยู่ตรงนั้นและได้ปิดกุฏิหลังเก่ามาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยเซฟอยู่ภายในห้องนอน พอหลวงพ่อทราบข่าวจากพระลูกวัดก็รู้สึกเสียใจ ส่วนกล้องวงจรปิดนั้นเสีย หลวงพ่อก็เลยถอดปลั๊กออก ในส่วนของเงินที่อยู่ในเซฟประมาณ 6.5 ล้านบาท หายไปจริง

ซึ่งคนร้ายได้เข้ามาทางหน้าต่างกุฏิ หลวงพ่อได้แจ้งความไว้แล้ว ส่วนคนร้ายจะเป็นคนในวัดไหม หลวงพ่อไม่ยอมตอบ บอกเพียงแต่ว่า ตำรวจได้เอาลายนิ้วมือแฝงคนในวัดทุกคนส่งไปทางภาค 3 แล้ว

ทางด้าน พ.ต.ท.ถนัดติ นานพ รอง สว.สอบสวน สภ.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้มาตรวจสอบและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตู้เซฟดังกล่าวเป็นเหล็กก่อปูนภายในความสูงประมาณ 2 เมตรและมีน้ำหนักมาก ช่วงกลางตู้เซฟพบว่ามีการทุบเจาะทำลายเป็นช่อง ซึ่งได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาดีเอ็นเอ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บ DNA ผู้ที่อยู่ในวัดและผู้ใกล้ชิด ส่งตรวจที่ภาค 3 หารอยนิ้วมือแฝง เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ขอบคุณ โหนกระแส