ชื่นมื่น! แพทองธาร นำพรรคร่วมรัฐบาล ดินเนอร์ครั้งแรก หลังรับตำแหน่ง แกนนำตบเท้ามาครบทุกพรรค รับหารือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม -แก้ รธน.
บรรยากาศงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรมโรสวูด ถนนเพลินจิต ซึ่งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยมีแกนนำพรรคคนสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย ชุณหวริชร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
ส่วนพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
อีกทั้ง ยังมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิสม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายซูการ์โน มะทา พรรคประชาชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นพรรคใหม่ที่มาร่วมรัฐบาล นำมาโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า การดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้มีธีมอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ธีมเหรอ ไม่มีธีม
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ แกนนำพรรคได้พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และเมนูอาหารค่ำมื้อนี้ อาทิ หอยเป๋าฮื้อ กับคาเวียร์ หอยเชลล์ฮอกไกโด บาร์บีคิวหมูราดน้ำผึ้ง วอลนัทสลัดซอสหัวหอม ซุปหอยเชลล์ กุ้งลายเสือ และเต้าหู้
อย่างไรก็ตาม การดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แถลงภายหลังการร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี อิ่มอร่อย ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มารับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งขอบคุณสื่อมวลชนด้วยที่ช่วยเตือนเรื่องนี้ ซึ่งครั้งนี้ได้พูดคุยกันอย่างสบายๆ มีเรื่องที่อยากจะหารือก็ได้หารือกัน ซึ่งตกลงร่วมกันว่าจะมีดินเนอร์ร่วมกันในลักษณะนี้ต่อไป โดยครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเจ้าภาพ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ ได้มีการพูดคุยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่จะทำงานร่วมกัน และตนเองได้ย้ำอีกครั้งว่า อยากคุยกับทุกคน เรื่องการทำงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากหลังเดินทางร่วมการประชุมเอเปคแล้ว ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ก็จะเชิญทั้งหัวหน้าพรรคและแต่ละกระทรวงเข้ามาพูดคุย เพราะอยากทราบถึงปัญหา และแนวทางที่อยากจะทำงานร่วมกัน ซึ่งก็ได้แจ้งทุกคนไปแล้วว่าจะขอนัดแยก
ส่วนเรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้มีการหารือกันหรือไม่ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าว ในทุกเรื่องมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกัน และไม่ตรงกัน เพราะเป็นประชาธิปไตย แต่ทุกเรื่องสามารถตกลงและแลกเปลี่ยนกันได้ และต่อไปก็ขอให้เป็นเรื่องในสภาฯที่จะดำเนินการต่อ เราก็จะทำงานตรงนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ในที่ในวงรับประทานอาหารแต่ละคนเห็นอย่างไรเรื่องการผลักดันร่างพ.ร.บนิรโทษกรรม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหว เนื่องจากมีทั้งเห็นตรงและเห็นต่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ขอชี้แจงในรายละเอียด พร้อมระบุว่าเรื่องของสภาและรัฐบาลต้องแยกกันไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้วจะเป็นมติของพรรคร่วมรัฐบาลหรือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่เราก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้วถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเว้นหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดมาโดยตลอด และเป็นข้อตกลงที่เราร่วมรัฐบาลกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นพร้อมต้องกัน และย้ำว่า เราไม่แตะเรื่องมาตรา 112 ตนพูดทุกเวทีอยู่แล้ว
ขณะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเดินหน้าอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ที่เราพูดคุยกันคือพูดคุยในกรอบว่าเราจะทำอะไรกันบ้าง และลงลึกไปถึงแต่ละกระทรวงและจะพัฒนาประเทศอย่างไร
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน