ลูกชั้นอนุบาลกลับจาก รร. บ่นเจ็บคอ ไม่ยอมกินข้าว ก่อนยอมเล่าว่า ครูลงโทษอะไรมา แม่แจ้งตำรวจทันที (ตปท.)

ลูกชั้นอนุบาลกลับจาก รร. บ่นเจ็บคอ ไม่ยอมกินข้าว ก่อนยอมเล่าว่า ครูลงโทษอะไรมา แม่แจ้งตำรวจทันที (ตปท.)

สำหรับเด็กในช่วงก่อนวัยเรียนหรือช่วงประถมนั้น ถือเป็นช่วงวัยที่มีความซุกซนเป็นอย่างมาก ชอบเล่นสนุกมากกว่านั่งนิ่ง ๆ ในห้องเรียน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ครูมักจะคิดบทลงโทษเด็กด้วยวิธีต่าง ๆ มากมาย เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทำผิดพลาดซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่บทลงโทษเหล่านั้นอาจจะเกินขอบเขตไป กลายเป็นส่งผลไม่ดีมากกว่าส่งผลดีต่อชีวิตของเด็ก

ดังเช่นเดียวกับเรื่องราวของเด็กอนุบาลในเมืองหยางโจว ประเทศจีน ที่ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ phunuphapluat.nguoiduatin เพราะครั้งหนึ่งเรื่องราวเหล่านี้เคยสร้างความปั่นป่วนบนโซเชียลเน็ตเวิร์กมาแล้ว และเมื่อถูกนำมากล่าวถึงอีกครั้ง ก็กลายเป็นอุทาหรณ์ในทุกครั้ง และยังคงทำให้พ่อแม่หลาย ๆ ท่าน รู้สึกหวาดกลัวอยู่เสมอ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางหลี่ แม่ของเด็กชายรายดังกล่าว เล่าว่า วันหนึ่งลูกชายของเธอกลับมาจากโรงเรียนอนุบาล เขาบ่นว่าเจ็บคอและไม่อยากกินอาหารเย็น วันรุ่งขึ้นเธอจึงพาลูกชายไปพบแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยว่า คอบวมแดงและมีแผลพุพอง เพราะฉะนั้น จึงต้องดูแลและใส่ใจในเรื่องอาหารการกินและเครื่องดื่มของลูกให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยความประหลาดใจและกังวล ที่ลูกชายมีอาการเจ็บคอกะทันหันเช่นนี้ นางหลี่จึงค่อย ๆ เอ่ยถามลูกชายว่ามันเกิดอะไรขึ้น เด็กชายก็เล่าว่า หนูกำลังคุยกับเพื่อนในห้องเรียน ครูเลยลงโทษพวกเราทุกคนให้ดื่มน้ำร้อนที่เพิ่งต้ม ครูสั่งให้หนูดื่มเร็ว ๆ หนูดื่มไม่หมด แต่คนอื่นดื่มหมด ครูเลยให้หนูดื่ม 4 ถ้วย

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายพูดออกมาแบบนั้น นางหลี่ก็เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก รีบตรงไปโรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด และสิ่งที่ปรากฏบนกล้องก็เหมือนกับที่ลูกชายของเขาเล่าให้ฟังทุกประการ แถมหลังจากที่ดื่มน้ำที่ครูลงโทษ เด็กชายก็วิ่งไปที่ห้องน้ำ และเพื่อนอีก 4 คนก็ประสบปัญหาเดียวกัน

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ คุณครูจึงยอมรับผิดถึงพฤติกรรมของตนเอง พร้อมทั้งกล่าวขอโทษครอบครัวและนักเรียนที่ถูกลงโทษ ทั้งนี้ นางหลี่เชื่อว่าพฤติกรรมของครูเป็นปัญหาด้านจริยธรรม และไม่สามารถให้อภัยได้ด้วยการขอโทษ อีกทั้งยังพบว่าเธอไม่มีใบประกอบวิชาชีพ จึงถูกไล่ออกและส่งกลับบ้านทันที

ข้อมูล phunuphapluat.nguoiduatin

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ