เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ จ.สงขลา ได้เกิดเหตุการณ์ผู้หญิงใช้มีดปาดคอกันภายในวัดได้รับบาดเจ็บสาหัส คนก่อเหตุเป็นคุณป้าใช้มีดปาดคอหญิงสาวรุ่นลูก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในอาคารจัดเลี้ยงฌาปนสถานวัดจะทิ้งพระ ม.4 ต.จะทิ้งพระ อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งกำลังมีการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพชาวบ้าน รายงานว่าผู้บาดเจ็บคือ น.ส.วิไลพร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ต.จะทิ้งพระ มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกเชือดด้วยมีดปาดตาลที่คอขณะนี้อาการยังสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลา รายงานว่าส่วนคนก่อเหตุ คือ นางไสว (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ต.จะทิ้งพระ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกจากวัดไป แต่ทำมีดปาดตาลตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

รายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม นางไสวได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ แล้ว โดยมีผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งพาเข้ามอบตัว เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่า โดยจะนำตัวฝากขังในวันที่ 21 ตุลาคม จากการสอบสวนทราบว่าสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องหนี้สิน นางไสว มือมีด เป็นเจ้าหนี้ ส่วน น.ส.วิไลพร คนเจ็บเป็นลูกหนี้ ซึ่งมีการหยิบยืมเงินกันจำนวนหนึ่ง แต่ระยะหลังเริ่มมีปัญหากันประมาณว่าอีกฝ่ายไปทวงแต่อีกฝ่ายไม่จ่าย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ได้ลงไม้ลงมือตบตีกันมาแล้วครั้งหนึ่ง รายงานว่า

จากการลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุภายในฌาปนสถานวัดจะทิ้งพระ และสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์และนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนเจ็บ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขณะนั้นมีชาวบ้านอยู่ในงานศพประมาณ 10 คน ตนนั่งอยู่โต๊ะเดียวกับ น.ส.วิไลพร คนเจ็บ และเห็นนางไสวเดินวนเวียนไปมารอบโต๊ะม้าหินอ่อนแล้ว 2-3 รอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร นั่งคุยกันตามปกติ ปรากฏว่า นางไสวได้เดินมาจากด้านหลังและกระชากหัว น.ส.วิไลพร และใช้มีดปาดตาลที่พกมาปาดไปที่คอต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมโต๊ะ จนเป็นแผลฉกรรจ์ แต่ว่ามีดหลุดมือ และรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกจากวัดไปทันที แม้ว่าจะพยายามวิ่งตามไปแต่ก็ไม่ทัน โดยญาติของ น.ส.วิไลพร ได้ติดต่อผ่านผู้สื่อข่าวบอกว่าต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบและได้รับการประกันตัวออกมา เนื่องจากตอนเข้ามอบตัวมีผู้นำท้องถิ่นไปด้วย กลัวว่าอาจมีนอกมีในและไม่ได้รับความเป็นธรรม