รวบสองผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าว อัดแน่นกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ โยนร่างทิ้งสวนยางพารา

รวบสองผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าว อัดแน่นกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ โยนร่างทิ้งสวนยางพารา

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. ,พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. ,พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.บัญชา ต้วมสี ,ร.ต.ท.ภัทรพงษ์ พุฒพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. , ด.ต.พุฒิ ยิ่งสมบัติ , ด.ต.สยาม โพธิ์ทอง , ส.ต.อ.กฤษฎา อ้นประวัติ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ , กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม , สถานีตำรวจภูธรหลังสวน , กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชุมพร

ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา

1. นายพิทักษ์ฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 210/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2567

2. นายเสกสรรฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 209/2567 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2567

โดยกล่าวหาว่า กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาญาจัการโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นการจับกุม สถานที่จับกุม ถนนเพชรเกษม ทล.4 (ขาเข้า กทม.) กม.187+500 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

พฤติการณ์   ด้วยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 11.30 ได้ สภ.หลังสวน รับแจ้งเหตุว่าพบ กลุ่มบุคคลหมดสติบริเวณป่าละเมาใกล้กับวัดแห่งหนึ่ง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดพบว่า เป็นกลุ่มชาวเมียนมา 26 คน นั่งอยู่บริเวณป่าละเมาะ บางรายมีอาการนอนแน่นิ่ง และได้เข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ภายหลังทราบว่าเสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1ราย เป็นชายทั้งหมด)

จากการตรวจสอบบุคคลทั้งหมด พบว่าไม่มีเอกสารการเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด จากการสอบถามแพทย์ผู้ชันสูตร เบื้องต้นให้รายละเอียดว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากการขาดอากาศหายใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ พบรถต้องสงสัยที่เชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่นำพากลุ่มบุคคลต่างด้าว ดังกล่าวมาปล่อยในที่เกิดเหตุจำนวน 2 คัน ได้แก่ 1.รถยนต์กระบะตู้ทึบ สีเทาเข้ม ทะเบียนจังหวัดสมุทรสงคราม และ 2.รถยนต์กระบะตู้ทึบสีเทาอ่อน ทะเบียนจังหวัดหนองคาย

จากการซักถามข้อมูลจากบุคคลต่างด้าวที่พบโดยผ่านล่ามทราบว่า เป็นบุคคลต่างด้าวที่เดินทางมาจาก รัฐยะไข่ ประเทศพม่า จะไปประเทศมาเลเซีย โดยเดินทางมาทั้งหมด 26 คน (เป็นหญิง 5 คน ชาย 21 ) ผ่านทางช่องทางธรรมชาติติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางเปลี่ยนยานพาหนะมาประมาณ 3 รอบ ก่อนเกิดเหตุ ต่อมาผู้ขับขี่รถยนต์กระบะตู้ทึบทั้ง 2 คัน สังเกตุเห็นว่าผู้โดยสารมีอาการไม่ดี จึงได้นำบุคคลต่างด้าวลงจากรถมาไว้ยังบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.67 เวลาประมาณ 10.30 น.

ซึ่งต่อมาในวันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้สกัดจับรถทั้ง 2 คันที่ต้องสงสัยขนแรงงานต่างด้าวข้างต้น ได้ที่บริเวณ ถนนเพชรเกษม ขาเข้า กม.187+500 หน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงชะอำ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี  เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี จึงได้เชิญ ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนมาทำการซักถามปากคำที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวง ทราบชื่อคนขับรถกระบะตู้ทึบคันทะเบียนจังหวัดสมุทรสงคราม ชื่อ นายพิทักษ์ฯ และคนขับรถกระบะตู้ทึบอีกคันทะเบียนจังหวัดหนองคาย ชื่อ นายเสกสรรฯ

และในวันเดียวกันนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลังสวน ได้ขอศาลจังหวัดหลังสวนอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้ข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันให้ที่พักอาศัย ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราขอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม จึงได้ประสานข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ให้ทำการจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง สภ.หลังสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และทำการขยายผลถึงกลุ่มเครือข่ายขนแรงงานต่างด้าวนี้มารับโทษตามกฎหมายต่อไป    

จากการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ยอมรับว่าเป็นคนขับรถนำพาต่างด้าวมาจริง โดยขับไปรับกลุ่มคนต่างด้าวทั้ง 26 คนมาจากเขตพื้นที่นิมิตรใหม่ จ.กรุงเทพฯ เพื่อไปส่งที่พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยแบ่งหน้าที่กันซึ่ง นายพิทักษ์ฯ จะทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบ ทะเบียนจังหวัดสมุทรสงคราม บรรทุกคนต่างด้าวที่แอบหลบซ่อนจำนวน 26 คนอัดแน่นในตู้ทึบหลังกระบะ ซึ่งต่อมาทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจำนวน 3 คน ส่วนนายเสกสรรฯ จะทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบ คันทะเบียนจังหวัดหนองคาย เป็นรถนำดูต้นทางให้กับนายพิทักษ์ฯ เพื่อคอยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองยังได้รับอีกว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนในกลุ่มที่ขับรถบรรทุกขนส่งของด้วยกันชักชวนมาทำงานขนต่างด้าว เพราะรายได้ดีมาก หากทำงานส่งคนสำเร็จจะได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 100,000 บาท โดยหากตกลงรับงาน จะมีกลุ่มขบวนการใช้หมายเลขปริศนาโทรมานัดแนะจุด ที่ให้ไปรับ คนต่างด้าว และจุดที่จะไปส่งคนต่างด้าวลงไว้ โดยรับจ้างขนคนต่างด้าวมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 ครั้ง ได้รับค่าจ้างขนครั้งละ 70,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนแรงงาน โดยจะไปรับคนจากพื้นที่ กทม.และปริมณทล ไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ