รวบนายหน้าเปิดบริษัทให้ลูกเขยอดีตนายกเล็ก ฮั้วประมูลโครงการจ้างเหมาถมดินที่พักเทศบาล ในจังหวัดสมุทรปราการ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. และคณะกรรมการป้องกันและปรามการทุจริตแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการโดย นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 1 นำโดย นายธีรเดช พวงเงิน นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.
ร่วมกันจับกุม นายรังสรรค์ฯ อายุ 51 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต เป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และรับรองเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือกระทำการใดๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ม.ค.2549 เทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการได้ประกาศประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โครงการจ้างเหมาถมดินปรับพื้นที่ดินของเทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ งบประมาณ 5,948,000 บาท โดยมีบริษัทของนายรังสรรค์ฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัท ที่ยื่นซองประมูลและชนะการประมูลโครงการดังกล่าว ซึ่งมีนายวีระฯ เป็นคนให้ดำเนินการเปิดบริษัทและนายรังสรรค์ฯ ได้ร่วมกับนายวีระฯ ปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงาน เพื่อมาเป็นเอกสารประกอบในการยื่นเสนอราคากับเทศบาล
ต่อมาเมื่อเดือน มิ.ย. 2549 เทศบาลแห่งเดิมในจังหวัดสมุทรปราการ ได้ประกาศประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ “โครงการจ้างเหมาถมดินสถานที่ก่อสร้างบ้านพักพนักงานเทศบาลแห่งเดิมในจังหวัดสมุทรปราการ งบประมาณ 3,772,000 บาท” มีบริษัทของนายรังสรรค์ฯ ได้เข้าร่วมการประมูลและชนะการประมูลในโครงการอีกครั้ง โดยมีการยื่นหลักฐานประกันซองและใช้หลักประกันซองปลอม โดยทั้ง 2 โครงการ นายกเทศมตรีในขณะนั้น ไม่ดำเนินการตัดรายชื่อผู้เสนอราคาและไม่ยกเลิกการเสนอราคาในทั้ง 2 โครงการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ ทางเทศบาลฯ ได้มีการจ่ายเงินให้กับบริษัทของนายรังสรรค์ฯ รวมเป็นเงิน จำนวน 9,720,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมด
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช ทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยบริเวณ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ทำให้สามารถจับกุมนายรังสรรค์ฯ ได้ที่บริเวณแถวบ้านพักใน ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งอัยการสูงสุด สำนักงานคดีปราบปรามปรามการทุจริตภาค 1 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ผู้ต้องหาเป็นลูกน้องของนายวีระฯ โดยนายวีระฯ เป็นลูกเขยของอดีตนายกเทศมนตรีในขณะนั้น ให้ไปดำเนินการเปิดบริษัทดังกล่าว ในส่วนของอดีตนายกเทศมนตรี และผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. จับกุมและดำเนินการตามกฎหมายไปก่อนหน้านั้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน