ตามรวบผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ได้ ก่อนคดีขาดอายุความเพียง 2 เดือน หลังหลบหนีมาได้เกือบ 20 ปี
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ และ พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5บก.ป., ร.ต.อ.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ รอง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุมนายประมูลฯ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ที่ จ.299/2548 ลงวันที่ 12 เมษายน 2548 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปและมีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะ หมู่บ้าน เมือง โดยไม่มีเหตุอันควร
สถานที่จับกุม ลาดจอดรถแห่งหนึ่งใกล้ถนนดำรง ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2547 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกขับรถจักรยานยนต์ ตามประกบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้ผู้เสียหายจอดรถ จากนั้นปล้นเอาทรัพย์สิน เงินสดและรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสิเกา ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาเป็นรายสุดท้ายที่ถูกออกหมายจับและยังคงหลบหนีการจับกุม
ซึ่งคดีดังกล่าวจะขาดอายุความในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นี้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหา หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน