รวบอดีตข้าราชการ หลบหนีหมายศาล
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.ธีรชาติ ธรชาติธำรง รอง ผบก.ปพ. รรท.ผบก., พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.๓ บก.ปพ., พ.ต.ท.อัฐพ์ เอิบอาบ, พ.ต.ท.อิทธิรัฐ นิยมทรัพย์ รอง ผกก.๓ บก.ปพ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.จีรศักดิ์ นิมมา สว.กก.3 บก.ปพ., ส.ต.ท.ภูริเดช มณีวรรณ, ส.ต.ท.ปฏิภาณ ตรีคาม, ส.ต.ท.มนัสวี พาลาด, ส.ต.ท.เกษมศักดิ์ โคตรประทุม, ส.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ หมู่แสนกอ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปพ.
ร่วมกันจับกุม นายอนุรักษ์ หรือ นายคำรบ แก้วสีขาว อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 496/2552 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2552 ในความผิดฐาน (ฆ่าผู้อื่น) ความผิดต่อชีวิต, ผิดต่อตำแหน่งเจ้าหน้าที่ราชการ ซึ่งศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุกจำเลย มีกำหนด 20 ปี (หลบหนีหมายศาล)
สถานที่จับกุม บริเวณหมู่ที่ 2 ถนนศรีสะเกษ ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2536 เวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ตายได้ขับรถบรรทุกมาบนสะพานพระโขนง จากนั้นได้ถูกผู้ต้องหาซึ่งขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เรียกให้หยุดรถและขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งทางผู้ตายไม่ได้แสดงใบอนุญาตขับขี่ในทันที แต่ทางผู้ตายได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่า จะขอขับรถไปจอดที่เชิงสะพาน เนื่องจากเห็นว่าด้านหลังมีรถติดจำนวนมาก โดยทางผู้ต้องหาเกรงว่าผู้ตายจะขับรถหลบหนี ทั้งสองจึงมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จนภายหลังเมื่อผู้ตายขับรถออกไป เพื่อจะไปจอดที่บริเวณเชิงสะพาน ทางผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไปดักรอด้านหน้า และใช้อาวุธปืนยิงไปที่ประตูรถบรรทุกของผู้ตาย กระสุนถูกผู้ตายจำนวน 1 นัด บริเวณเอวด้านขวาทะลุออกซี่โครงด้านหน้า ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ภายหลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยได้มีการเก็บรวบรวมพยาน หลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบถามประจักษ์พยาน เนื่องจากทางผู้ต้องหาอ้างว่าถูกผู้ตายขับรถพุ่งเข้าใส่ผู้ต้องหาจึงใช้อาวุธปืนขู่เพื่อให้หยุดรถ และในระหว่างนั้นผู้ต้องหาเกิดเสียหลักล้มลง อาวุธปืนที่อยู่ในมือจึงลั่นไปถูกผู้ตาย โดยผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายแต่อย่างใด
ซึ่งจากการสอบถามพยานบุคคลผู้เห็นเหตุการณ์ต่างให้การว่าในขณะที่ผู้ต้องหาขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์จากผู้ตายนั้น ผู้ตายไม่ได้แสดงใบอนุญาตขับขี่ในทันที โดยผู้ตายขอให้ตามไปเอาที่เชิงสะพานเพราะรถเคลื่อนตัวออกแล้ว ผู้ต้องหาจึงเกิดความไม่พอใจ จากนั้นจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอรถผู้ตาย ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด .357 ยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย จากคำให้การของพยานประกอบกับรายงานผลการชันสูตรพลิกศพซึ่งระบุวิถีกระสุนที่ผู้ต้องหายิงผู้ตายนั้นอยู่ในแนวระดับเข้าซี่โครง ไม่ตรงตามวิถีกระสุนที่ ผู้ต้องหาอ้างว่าตนเองล้มลงเเละทำปืนลั่นใส่ผู้ตาย พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ต่อมาในระหว่างที่คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ต้องหาไม่เดินทางไปฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลมีคำ
พิพากษาจำคุก 20 ปี ศาลจึงได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการลงพื้นที่จับกุม จากนั้นจึงนำตัวส่งศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ไม่ขอให้การใดๆ
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน