รถบัสนักศึกษา มศว.ประสานมิตร พุ่งชนรถ 12 ล้อบรรทุกหมู บาดเจ็บจำนวนมาก
เมื่อเวลาประมาณ 18.50 น. วันที่ 14 ต.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุก 12 ล้อ ขนสุกรเฉี่ยวชนกับรถบัสไม่ประจำทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 ราย ทราบว่าเหตุเกิดบนถนนริมถนนเพชรเกษม ขาเข้าเมืองนครปฐม ฝั่งตรงข้าม ศาลเยาวชนและครอบครัว หมู่ 2 ต.หนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเราะห์นครปฐมช่วยกันเรียงรายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยมีกลุ่มนักศึกษาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บนั้นทยอยลงจากรถเพื่อเปลี่ยนถ่ายรถ ขนย้ายสัมภาระ ใกล้กันพบบรรทุก 12 ล้อยี่ห้อ Hino หมายเลขทะเบียน 86-1266 สุพรรณบุรี บรรทุกหมูมาเต็มคัน จอดอยู่
โดยที่บริเวณท้ายพบว่ามี รถบัสขนาดชั้นครึ่ง ยี่ห้อ Isuzu หมายเลขทะเบียน 30-0541 สุพรรณบุรี ได้รับความเสียหายกระจกบานหน้าแตกละเอียดทั้งบาน ด้านหน้ามีรอยยุบจนประตูบิดเบี้ยวไม่สามารถเปิดออกได้ มีนายชัยสิทธิ์ ปัทมเมทิน อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/111 หมู่ 14 ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม นายชัยสิทธิ์ คนขับรถบัส บอกว่า รถบัสมีนักศึกษานั่งโดยสารรวมกว่า 40 คน เดินทางกลับมาจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยเป็นโครงการผลิใบ ของค่ายอนุรักษ์ จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (มศว.ประสานมิตร) ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นกำลังเดินทางกลับเข้ามหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่า ในขณะที่ขับมานั้นรถขนหมูคันหน้า เกิดเบรกกะทันหัน ทำให้ตนเองไม่สามารถเบรคได้ทัน จึงพุ่งเข้าชนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ขณะเดียวกันประตูนั้นบิดเบี้ยวจนไม่สามารถเปิดออกได้ ตนเองจึงเปิดประตูด้านหลัง เรียกว่าประตูลม เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถออกมาจากรถให้เร็วที่สุด ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 31 คน ส่งโรงพยาบาลสินแพทย์ 15 คน และโรงพยาบาลกรุงเทพสนามจันทร์ 16 คน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยแต่ละคนนั้นมีอาการฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก จากแรงกระแทก
ทางด้าน นายสินชัย สุดธูป อายุ 38 ปี คนขับรถบรรทุก เล่าว่า ตนเองกำลังขับรถบรรทุกสุกรจำนวน 130 ตัว มีน้ำหนักกว่า 13 ตัน บรรทุกมาจากราชบุรี เพื่อมานำส่งที่จังหวัดนครปฐม ขณะนั้นรถได้เกิดเบรกเนื่องจากฝนตก แต่คาดว่ารถบัสที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนรถของตน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ดี อุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงการจราจรบนถนนเพชรเกษมฝั่งมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครที่ติดขัดยาวนานนับชั่วโมงและมีความสะสมท้ายแถวหลาย 10 กิโลเมตร เบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากทัศนวิสัยที่ไม่ดีในช่วงฝนตกลงมาทำให้มองไม่ชัดเจนและถนนลื่น ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครปฐม รายงาน