เตือนภัยแอปฯหาคู่ โปรไฟล์ดีอย่าหลงเชื่อ เช็กให้ดีก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

เตือนภัยแอปฯหาคู่ โปรไฟล์ดีอย่าหลงเชื่อ เช็กให้ดีก่อนตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์  จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป.,  พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าพนักงานผู้จับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ฯ อายุ 28 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอดลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน” ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 4254/2567 ลงวันที่ 1 กันยายน 2567 สถานที่จับกุม  บริเวณริมถนนสาธารณะ ซอยบุญศิริ 2 ตำบลปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

พฤติการณ์ทาง สืบเนื่อง เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 ผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้ายหลอกลวง โดยคนร้ายได้ใช้ แอปพลิเคชัน (แอปฯหาคู่) เปิดบัญชีใช้ภาพโปรไฟล์ผู้ชายหน้าตาดี ชวนผู้เสียหายพูดคุยเพื่อให้เกิดความสนิทสนม จากนั้นได้อ้างว่าตนเองมีความรู้ความสามารถในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนในเว็ปไซด์ ที่กลุ่มคนร้ายสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้ลงทุนตามที่กลุ่มคนร้ายหลอกลวง ซึ่งปรากฎว่าได้กำไรปรากฎในเว็ปไซด์ แต่เมื่อต้องการจะถอนทรัพย์สินออกจากเว็ปไซด์นั้น ไม่สามารถถอนทรัพย์สินออกได้ จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกลวง จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายทั้งหมดจนกว่าคดีจะถึงทึ่สุดทั้งหมด  

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามสืบสวนคนร้าย 1 ในกลุ่มคนร้ายหลอกลวงผู้เสียหาย นายวรวัฒน์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดี “ร่วมกัน,ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอดลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน” จนพบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ในที่สุด โดย นายวรวัฒน์ฯให้การว่าตน ไม่ทราบรายละเอียดใดกับคดีนี้มาก่อน เพียงแต่เคยขายบัญชีธนาคารของตนเอง พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกไว้กับบัญชีธนาคารให้กับเพื่อนสนิท ในจำนวน 1,000 บาท

ทั้งนี้ นายวรวัฒน์ฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิข้างต้นให้ทราบ พร้อมแจ้งให้ทราบว่าต้องถูกจับกุม

นายนายวรวัฒน์ฯ ได้ยินยอมโดยสมัครใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมควบคุมตัวมาทำบันทึกการจับกุมตัวที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เสร็จแล้วนำตัวส่ง กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ