หนุ่ม กรรชัย ถามผู้เสียหายดิไอคอน คุณได้ไหม รวยไหม มีเงินซื้อเฟอรารี่แบบเขาไหม ได้ยินคำตอบแล้วจุกอก
หลังจากที่เกิดกระแสดราม่าธุรกิจชื่อดัง ดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีผู้เสียหายเข้าไปร้องเรียนกับตำรวจเรื่องการขายสินค้า สต๊อกสินค้า แต่ขายไม่ออก จนกระทั่งสินค้าหมดอายุ เสียเงินไปมากมาย
ล่าสุด วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ในรายการโหนกระแสวันนี้ แขกที่มารายการคือ พระเอกดังอย่าง บอย ปกรณ์ และเหล่าผู้เสียหาย ซึ่งบอยเปิดใจเล่าว่า หลังจากมีผู้เสียหายออกมาพูดจำนวนมาก ยิ่งรู้สึก (เสียงสั่น) รู้จักดิไอคอน เพราะบอสพอลติดต่อมา รู้กันตอนปี 2563 เคยได้รับการติดต่อมาเพื่อเป็น พรีเซ็นเตอร์ เกี่ยวกับสินค้าเวย์โปรตีน สัญญา 1 ปี ครบ 1 ปี ไม่มีการต่อสัญญา เว้นว่างตอนปี 2564 ต่อมาปี 2565 ก็ต่อสัญญาปีต่อปี ในสัญญาแค่เป็นผู้แสดงแบบเท่านั้น
ยืนยันว่าในใบสัญญาไม่ได้มีการชักชวนคนในมาทำธุรกิจด้วยกัน ในใบสัญญามีหลักฐานชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ตนก็ยินดี
หลักๆ เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ สินค้า ถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ รวมทั้งออกกิจกรรมอีเวนต์ หลักๆมีเท่านี้ และอาจจะมีไปออกรายการ เพื่อโปรโมทสินค้า และในการว่าจ้างงานไม่มีการให้ชักชวนมาซื้อสินค้า ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ผมไม่ได้เป็นบอส ไม่ได้เป็นผู้บริหาร กล้าพิสูจน์จากทางตัวแทนและผู้เสียหาย ยืนยันไม่ได้เป็นบอส
ต่อมาในช่วงหนึ่งของรายการ ด้าน หนุ่ม กรรชัย ถามผู้เสียหายว่า คุณได้ไหม รวยจริงไหม มีเงินซื้อเฟอรารี่แบบเขาไหม ซึ่งทางด้านผู้เสียหาย ตอบกลับว่า เหลือแค่ลมหายใจนี่ก็บุญแล้วค่ะ หนูไม่เหลืออะไรเลยนะ หนุ่ม กรรชัย พูดเสริมว่า ไม่เหลือเลยหรอ มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ ผู้เสียหายเอ่ยเสียงสั่นว่า ยังไม่ทันขาย เดินออกจากบ้านก่อน เอาเงินที่ลูกจะต้องไปเรียนเนี่ย เอามาลงทุนเนี่ยแหละค่ะ เอาลูกเอาชื่อลูกชื่ออะไร มันเป็นไบนารี่ ขาข้างนึงมันโตถ้าไม่ลงก็รับตังค์ไม่ได้ ก็ต้องเอาชื่อลูกมาเปิดสองแสนสองแสน ลูกก็ด่าเช็ดจนถึงทุกวันนี้ ถ้าวันนี้ไม่มาออกรายการนี่ก็คงแบบ ตราบาปไม่ได้คลี่คลาย มันก็ต้องเปิดหน้ากัน เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว มันเสียไปหมดแล้ว
หนุ่ม กรรชัย ถามอีกว่า โห แล้วตอนนี้ลูกเป็นยังไง โกรธมั้ย ผู้เสียหายก็ตอบว่า ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่ามาออกโหนกระแส ไม่มีใครคุยด้วย 2 ปีแล้วค่ะ ญาติก็ไม่คุยด้วย เรียกว่าคำตอบทำเอาตกใจกันทั้งรายการเลยจริงๆ
เรียบเรียง สยามนิวส์