พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ , พ.ต.ท.บุรินทร์ กะปิตถา , พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง , พ.ต.ต.ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช , พ.ต.ต.พศวัต ศรีสุโข สว.กก.1 บก.ปคม. นำกำลังกวาดล้างจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย ได้ 9 ราย ประกอบด้วย น.ส.สุชาดา อายุ 26 ปี ,นายอานนท์  อายุ 25 ปี, MISS DOKKEO DOUANG OUDOM สัญชาติลาว อายุ 32 ปี ,นายมงคลวิทูร อายุ 40 ปี, MR.NIKSANH DOUANGOUDOM อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ,นายชัยวัฒน์ อายุ 31 ปี,นายสุโข อายุ 30 ปี ,นายเอกราชอายุ 29 ปี และ นายวุฒิพงศ์ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์ เซ็กซ์ทอยผิดกฎหมาย จำนวน 2,580 ชิ้น และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิดอีก 66 เครื่อง

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจ ปคม. ได้จับกุมผู้ต้องหาล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ่ายคลิปทำคอนเทนต์ลักษณะลามกอนาจารโดยมีอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยเพื่อดึงดูดความสนใจ ก่อนนำคลิปไปขายทางสื่อสังคมออนไลน์ Telegram กลุ่ม PimThaidai และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย โดยมีการตั้ง กลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งรวมถึงคลิปลามกเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายคลิป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 90,000 ราย และมีคนต่างด้าวร่วมกระทำความผิดตามกฎหมายด้วย

พล.ต.ต.ศารุติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กลุ่มลับดังกล่าวยังแอบแฝงลักลอบจำหน่ายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยและยาปลุกอารมณ์ผิดกฎหมายอีกด้วย จึงได้สั่งการให้รวบรวมหลักฐานขอหมายค้นจากศาล เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 5 จุด ในพื้นที่ กทม.3 จุด นครปฐม 1 จุด และชลบุรี 1 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพรับว่า ลักลอบเปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และ กลุ่มลับใน Telegram เพื่อโฆษณาขายสินค้าเซ็กซ์ทอยมาแล้วกว่า 2 ปี มีรายได้เดือนละประมาณ 1-2 แสนบาท และมีเงินหมุนเวียนมากกว่าหลายล้านบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหา ผลิตสื่อลามกเพื่อความประสงค์แห่งการค้า แจกจ่าย มีไว้ นำเข้า ส่งออก , ประกอบการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามก, โฆษณาหรือไขข่าวเพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามก,ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีในอนุญาตทำงาน หรือนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน