โอกาศรอด 10% พ่อ เผยอาการลูกชาย ถูก ติ๊ก ชิโร่ ชนร่วงตกสะพาน

โอกาศรอด 10% พ่อ เผยอาการลูกชาย ถูก ติ๊ก ชิโร่ ชนร่วงตกสะพาน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่ สน.คันนายาว ร.ต.อ.ปฏิญญา จิรัญดร รองสารวัตร (สอบสวน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ”ติ๊ก ชิโร่“ หรือ นายศิริศักดิ์ นันทเสน ศิลปินนักร้องชื่อดัง อายุ 63 ปี ขับรถตู้พุ่งชนรถ จยย.เสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (04.00 น.) บริเวณกลางสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. ก่อนที่ติ๊ก ชิโร่จะรับสารภาพและได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ และถูกนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 ราย และอีก 1 ราย ไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน ทราบชื่อคือ น.ส.เทียนพร หรือเมจิ อายุ 28 ปี (ผู้เสียชีวิต) และนายจักรภัคร หรือจูเนียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะมนุษยศาสตร์ กับ น.ส.จิณห์นิภา อายุ 24 ปี

โดยนายจักรภัคร (น้องคนเล็ก) กระเด็นตกสะพาน สูง 10 เมตร อาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล นายจีรวัฒน์ คุณพ่อ อายุ 56 ปี และ น.ส.จิณห์นิภา พี่สาวคนกลาง หนึ่งในผู้ประสบเหตุ (คนซ้อนตรงกลาง) ได้เล่าให้ผู้กำกับและทีมข่าวฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มจากที่ทั้งสามคนไปซื้อของให้แม่และแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มบางจาก ก่อนที่ตนจะซื้อน้ำหนึ่งขวด ซึ่งมีการถ่ายเซลฟี่ร่วมกันสามคน ซึ่งในภาพติดขวดน้ำดังกล่าวด้วย พอขี่ขึ้นบนสะพาน น.ส.จิณห์นิภา คนซ้อนอยู่ตรงกลาง ทำขวดน้ำเปล่าพลาสติกหลุดมือกลางสะพาน จึงบอกให้น้องชาย (คนขี่) จอดบริเวณริมทางในเลนซ้าย

ซึ่งน้องก็พยายามชิดแล้ว แต่บนสะพานไม่มีไหล่ทาง ตำแหน่งรถ จยย.จึงยังอยู่ในถนนเลนซ้ายสุด ก่อนที่คนกลางจะวิ่งลงไปเก็บขวดน้ำ จึงเหลือแค่น้องชายคนขี่ กับพี่สาวคนโตคนซ้อนหลังสุดที่นั่งอยู่บนรถ จยย. ในระหว่างที่ตนเก็บขวดน้ำแล้วกำลังจะเดินไปขึ้นรถจยย. ก็เห็นรถตู้สีดำของติ๊ก ชิโร่ พุ่งเข้าชนรถ จยย. ซึ่งลักษณะการขับคือขับเอียงมาทางซ้ายด้วยความเร็ว คนโตกระเด็นเสียชีวิต คนเล็กกระเด็นตกสะพาน สภาพรถจักรยานยนต์เสียหายหนัก ผิดรูป

ด้านนายจีรวัฒน์ อายุ 56 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้อาการของลูกชายคนเล็กที่เจ็บสาหัส มีอาการกะโหลกศีรษะร้าว กระดูกต้นคอแตกหัก และยังอยู่ในอาการโคม่า แพทย์บอกว่ามีโอกาสรอด 10% และตอนนี้อยู่ระหว่างการ ประสานขอย้ายโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ เนื่องจากมีเงินไม่เพียงพอ และจะประสานไปยังโรงพยาบาลที่มีหมอเฉพาะทาง เมื่อถูกถามว่าได้คุยกับ ติ๊ก ชิโร่ หรือไม่ ก็บอกว่า ในที่เกิดเหตุ ติ๊กได้เข้ามาขอโทษ และก้มกราบ บอกว่าตนเองเป็นคนขับรถคันดังกล่าวเอง และจะรับผิดชอบทั้งหมด พร้อมบอกว่าจะมาที่โรงพัก ส่วนเมื่อถามว่าตอนนี้กังวลอะไรหรือไม่ เพราะเมื่อมาถึง สน.แล้วยังไม่เจอติ๊กเลย พ่อบอกว่า ที่กังวลตอนนี้คือลูกชายมากกว่า ส่วนคดีต้องรอคุยกับตำรวจอีกทีหนึ่ง

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ