สืบนครบาล รวบ แนน ท่าเกวียน เปิดเฟซบุ๊กหลอกขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ รับโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ส่งสินค้า 

สืบนครบาล รวบ แนน ท่าเกวียน เปิดเฟซบุ๊กหลอกขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ รับโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ส่งสินค้า 

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ธันยรัตน์ อายุ 31 ปี ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.600/2566 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าปากซอยวัดท่าเกวียน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่จัน แจ้งว่าเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565ได้เข้าไปดูเฟสบุ๊คเกี่ยวกับการขายเฟอร์นิเจอร์ ได้มีเพจเฟสบุ๊คเพจหนึ่ง นามว่า Thanya Nop ได้ประกาศขายชุดรับแขกไม้มะค่า ผู้เสียหายเห็นว่าสวยดีจึงได้ทักแชทเข้าไปพูดคุยและสอบถามราคา โดยทางเพจเฟสบุ๊คนามว่า Thanya Nopได้ส่งภาพชุดรับแขกมาให้ดู ผู้เสียหายได้สอบถามว่าอยู่จังหวัดเชียงรายส่งได้หรือไม่ ทางเพจเฟสบุ๊คนามว่า Thanya Nop แจ้งว่าสามารถส่งให้ได้จึงได้ทำการตกลงซื้อขายกัน จากนั้นวันที่ 11 มิถุนายน 2565 จึงได้ให้สามี โอนเงินไปให้ทางเพจเฟสบุ๊คนามว่า Thanya Noo เข้าบัญชีธนาคาร นามเจ้าของนางสาวธันยรัตน์ ครั้งแรกเวลา 11.29 น. เป็นเงิน 7,000บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้มะค่า และเวลา 12.44 น. เป็นเงิน 13,500 บาท เป็นค่าสั่งซื้อชุดรับแขกไม้สัก ตู้โชว์ โต๊ะรองทีวี แหย่งไม้สัก และวันที่ 15 มิ.ย. 2565 โอนเข้าระบบพร้อมเพย์ นาม นางสาวธันยรัตน์ เป็นเงิน 6,000 บาท เป็นค่าสั่งซื้อตู้ไม้สักหลังจากที่ได้โอนเงินไปแล้วปรากฏว่าทาง เพจเฟสบุ๊คนามว่า Thanya Nop และ นางสาวธันยรัตน์ ไม่ได้จัดส่งสินค้าชุดไม้มะค่ามาให้ผู้เสียหายแต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อกับทางเพจเฟสบุ๊คได้ผู้เสียหายคิดว่าคงจะถูกหลอกอย่างแน่นอน จึงได้นำเอกสารหลักฐานมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี

ในชั้นจับกุม น.ส.ธันยรัตน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจนระดับชั้น ม.6 จากมัธยมขื่อดังย่านนนทบุรี หลังจากเรียนจบก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ต่อมาช่วงประมาณปลายปี 2564 ตนเองได้คบกับแฟน ซึ่งตอนนั้นทางครอบครัวของแฟน ประกอบอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ขาย เช่น ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ตนจึงได้หาช่องทางในการขายเฟอร์นิเจอร์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ชื่อบัญชี " THANYARAT BANGYAI "  โดยช่วงแรกตนก็ยังรับออเดอร์ลูกค้า และส่งเฟอร์นิเจอร์ให้กับลูกค้าตามออเดอร์ที่สั่งตามปกติเช่นสุจริตชน โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ลูกค้าสั่งมีมูลค่าตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ต่อมาช่วงต้นปี 2565 ตนและแฟน ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจากการทำธุรกิจรับทำเฟอร์นิเจอร์ จนหมุนเงินในการทำธุรกิจไม่ทัน ตนจึงเริ่มไม่ส่งออเดอร์ตามที่ลูกค้าสั่ง จนลูกค้าบางรายติดต่อมาทางเฟสบุ๊กของตนเอง โดยตนเองก็เลือกที่จะไม่ตอบแชทลูกค้า จนกระทั่งช่วงกลางปี 2565 ตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง จับกุมในคดี ฉ้อโกง โดยลูกค้าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีตน ที่ไม่สามารถส่งออเดอร์ลูกค้าได้ตามกำหนด ซึ่งตอนนั้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท ต่อมาตนได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี จนพ้นโทษมาเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้ ตนพอจะทราบว่าตนเองน่าจะมีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอีก จึงย้ายสถานที่พัก แต่ก็มาถูกจับกุมในครั้งนี้

จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบข้อมูลว่า น.ส.ธันยรัตน์ มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล ในลักษณะฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 12 คดี ประกอบด้วย 1) ปี 2562 จำนวน 1 คดี คดีสิ้นสุดแล้ว 2) ปี 2563 จำนวน 1 คดี คดีสิ้นสุดแล้ว 3) ปี 2564 จำนวน 4 คดี คดีสิ้นสุดแล้ว 4) ปี 2565 จำนวน 4 คดี คดีสิ้นสุดแล้ว 3 คดี , หมายจับ สภ.แม่จัน จว.เชียงราย ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะเกิดความเสียหายต่อประชาชน" 1 คดี 5) ปี 2566 จำนวน 2 คดี คดีสิ้นสุดแล้ว 1 คดี , สน.ตลิ่งชัน ข้อหา "ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง" 1 คดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ รรท.ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าวกรุงเทพมหานคร รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ