ผู้เสียหายถูกบริษัทดังหลอกลงทุนสูญหลักล้านบาท ขณะที่บางราย ร่ำไห้ถึงกับเคยคิดจะทำจบชีวิตตัวเอง

ผู้เสียหายถูกบริษัทดังหลอกลงทุนสูญหลักล้านบาท ขณะที่บางราย ร่ำไห้ถึงกับเคยคิดจะทำจบชีวิตตัวเอง

วันนี้ 9 ตุลาคม 2567 ที่สำนักงานทนายความเดชาพร้อมมูนิธิเป็นหนึ่ง มีผู้ที่เป็นดีลเลอร์ ของบริษัทชื่อดัง ได้เดินทางมาพบกับทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่สำนักงาน เพื่อที่จะขอคำปรึกษาทางกฎหมาย และแนวทางการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทชื่อดัง หลังถูกแม่ขายชักชวนโน้มน้าวให้เปิดบิล และเพิ่มดีกรีเป็นระดับดีลเลอร์ โดยต้องจ่ายเงินอีกเกือบ 300,000 บาท แต่ท้ายสุดกลับขายสินค้าไม่ค่อยได้ แต่ทางแม่ข่ายให้ลูกค้าได้ยิงแอดโฆษณบต่อเนื่อง ทำให้หลายคนมองว่า นี่เป็นการขายตรงมากกว่า การเรียนยิงแอดโฆษณา

โดยคุณป้าวิภารัตน์ เจริญสุข 1 ดีลเลอร์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจาก อยากมีรายได้เสริมเพิ่ม ก่อนเห็นโฆษณาให้ไปเรียนการยิงแอดโฆษณา จึงโอนสมัครไป 2,500 บาท โดยเป็นการเรียนออนไลน์ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงโควิด จากร้านทำผมที่ทำอยู่ประจำ ซึ่งตอนฟังในตอนนั้นรู้สึกสนใจ และดูน่าเชื่อถือ

จากนั้นจึงเริ่มติดตาม และถูกชักชวนให้เค้าไปอบรมที่บริษัท ที่จัดเป็นห้องๆในฐานะสมาชิกใหม่ ก่อนจะเริ่มถูกโน้มน้าวให้เปิดบิลขายสินค้าเพื่อเพิ่มดีกรี โอนไปเลย 5 หมื่นบาท แบ่งเป็น ค่าเพิ่มดีกรี 25,000 บาท และ ทริปไปเที่ยวอีก 25,000 บาท โดยตลอดทั้งวัน ก็จะมีผู้ที่อ้างตัวประสบความสำเร็จมาพูดชักชวนโน้มน้าว ว่าสามารถทำได้ และให้ไปชักชวนคนอื่นมาขายสินค้าต่อจากตนเอง

จากนั้นก็มีการไปประชุมสถานที่ต่างๆก่อนที่จะโน้มน้าวให้ตนเองสมัครเป็นดีลเลอร์อีก 250,000 บาท ก่อนที่ตนจะได้เงินคืน 60,000 บาท  ในเวลาต่อมาตนจึงไปชักชวนเพื่อนให้มาสมัครเป็นดีลเลอร์ โดยต้นหวังดีออกเงินให้อีก 200,000 บาท เลยทำให้ตนจ่ายเงินไปรวมเกือบ 500,000 บาท  

วันนี้ที่เดินทางมาหาทนายเดชา เพราะไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่ตนเองรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก แม้ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวจะเคยห้าม และบอกว่าตัวเองถูกหลอกตนก็ไม่เคยเชื่อ

จากนั้น ทางทนายเดชา ได้ต่อสายถึงคุณปัทมาภรณ์ 1 ในผู้ที่เป็นดีลเลอร์ เล่าว่า ตอนนั้นช่วงโควิด ตนเองอยากเรียนแนออนไลน์ และให้ขายของดีขึ้น เลยตัดสินใจสมัคร ซึ่งวันแรกที่เรียนก็ยังไม่มีอะไร พอวันที่ 2-3 ก็เริ่มขายสินค้า และโน้มน้าวให้เปิดบิลไปราคา 2,500 บาท

แต่พอที่เปิดบิลไปแล้ว ก่อนจะแนะนำให้เป็นระดับดีลเลอร์ ที่ต้องจ่ายไป 2 แสนกว่าบาท ก็ไปยืมบัตรเครดิตพี่สาวไปรูด แต่พอท้ายสุดเราขายไม่ได้ ก็มีคนแนะนำว่าให้ไปหาคนมาเพิ่ม เพื่อระบายของที่ได้มา ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่การขายของ แต่กลับกลายเป็นตนต้องหาคนมาสมัครโดยเปิดบิล 2,500 บาท ซึ่งตนทำได้อยู่ 2 เดือน มองว่าไม่ใช่ และตนลำบากใจที่จะไปหาคน ส่วนของที่ได้มา ก็ขายไม่ค่อยได้ และส่วนตัวของตนเองก็ไม่รู้จักสินค้า ตนเองขายได้เพียง 10 คน ที่ผ่านมาก็มีทริปไปเที่ยว บอกว่าจะเปิดตัว ผจก. ทางการตลาดคนใหม่ ทำให้ตนตัดสินใจไปร่วมทริป

จนถึงวันนี้ ตนเองยังร้องไห้ และรู้สึกแย่ ตนออกไปเจอคนไม่ได้เลย เพราะเค้าเคยสอนว่า เจอคนที่รู้จัก ก็ชวนเค้าซื้อ เค้ากิน วันนี้ตนเองอยากให้ทนายช่วยดันเรื่องนี้ และตนก็รู้สึกผิดกับคนอื่นๆ ที่เคยชักชวนมากเปิดบิล

ด้านทนายเดชา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยเบื้องต้นเข้าข่ายความผิด พรบ.ขายตรง และ แชร์ลูกโซ่ เนื่องจากหลักฐานหลักฐานที่พิจารณาในเบื้องต้นพบว่า มีการพูดโฆษณาชวนเชื่อ โดยตอนแรกเป็นการสอนออนไลน์เปิดคอร์สสอนวิธีปักตะกร้าขายของออนไลน์ และยิงแอดโฆษณา แต่ แต่เมื่อกลับขายคอร์สหลงเข้าไปเรียนแล้วกลับมีการนมหนาวขายสินค้าและให้เปิดบิล รวมถึงให้อัพดีกรีเป็นระดับดีลเลอร์ และให้ชักชวนคนเข้ามาเป็นลูกข่ายเพื่อนำสินค้าไปขายต่อ

ส่วนบุคคลที่มีชื่อเสียง อินฟลูเอ็นเซอร์ ดาราศิลปินจากที่ตนเองเคยทำคดีแชร์ลูกโซ่มาจะต้องถูกดำเนินคดีทุกคน

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ