บุกจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน เชื่อมโยง 5 เคสไอดี มูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์,มิจฉาชีพและอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน โดยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นหลานสาว โทรศัพท์มาหลอกผู้เสียหายว่ามีเหตุต้องใช้เงินด่วน ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินรวมจำนวน 40,000 บาท
พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท. รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 และ พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 ได้สืบสวนจนทราบว่าหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการคือ นางสาวพีรดาฯ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับ
กระทั่งวันที่ 7 ต.ค. 2567 พ.ต.ท.โสภณ คงเพชร, พ.ต.ต.สำราญ ล่องเซ่ง พ.ต.ต.ธีรวุฒิ ระเบียบดี สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุม นางสาวพีรดาฯ อายุ 20 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ในข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยควบคุมตัวได้บริเวณ หน้าสถานีตำรวจภูธรทุ่งสง ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
เบื้องต้น นางสาวพีรดาฯ ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของบัญชีที่ใช้หลอกให้โอนเงินจริง โดยได้รู้จักกับคนให้เปิดบัญชีให้ผ่านทางเฟชบุ๊คกลุ่มหางานได้ค่าจ้างเปิดบัญชี 400 บาท จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก่อนที่กลุ่มมิจฉาชีพจะโอนเงินไปยังบัญชีอื่นต่อไป นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า นางสาวพีรดาฯ ยังมีความเชื่อมโยงกับคดีอื่นในลักษณะเดียวกันคือหลอกให้โอนเงินอีก 5 เคสไอดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200,000 บาท
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน