เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 สภ.เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีคนเสียชีวิตภายในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุพบร่าง นายพยุง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี สภาพเสียชีวิตในลักษณะนั่งก้มหน้า พบเชือกห้อยอยู่ 1 เส้น และเก้าอี้ 1 ตัว ตรวจสอบไม่พบร่องรอยบาดแผลตามร่างกาย จึงสันนิษฐานว่าน่าจะผูกคอเสียชีวิต

จากการสอบถาม ภรรยาของผู้เสียชีวิต อายุ 53 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้สามีซึ่งเป็นเจ้าของอู่และช่างซ่อม มักจะบ่นให้ฟังว่าไม่ค่อยมีลูกค้าเอารถยนต์มาซ่อมที่อู่ นาน ๆ จะมาสักคัน เงียบเหงามาประมาณ 3 เดือนแล้ว ภรรยา กล่าวต่อว่า จนถึงขั้นต้องขายรถกระบะไป 1 คัน เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและหมุนเวียนที่อู่ และมักจะโทรศัพท์มาตัดพ้อว่าไม่อยากอยู่แล้ว เพราะมีภาระหนี้สินเยอะ โดยเฉพาะรถเก๋ง ซึ่งจะถูกไฟแนนซ์มายึดภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เพราะค้างค่างวดมา 3 เดือนแล้ว ภรรยา กล่าวอีกว่า

ซึ่งรถเก๋งคันดังกล่าวต้องส่งค่างวดทั้งหมด 80 งวด งวดละ 3,600 บาท ที่ผ่านมาส่งไปแล้ว 15 งวด แต่พอช่วงไม่มีงานซ่อมรถทำให้ไม่มีเงินที่จะส่งค่างวด จนระยะหลังสามีเครียดก็จะชอบดื่ม และยังพูดว่าถ้าได้เงินช่วยเหลือจากรัฐ 10,000 บาท ก็คงได้มาช่วยแบ่งเบาได้บ้าง

ที่ผ่านมาไม่เคยได้เงินช่วยเหลือจากรัฐโครงการอะไรเลย ก็พยายามพูดปลอบใจ ไม่อยากให้สามีคิดมาก กระทั่งวันนี้ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ก็ยังโทรคุยกันอยู่ เขาก็ตัดพ้อว่าไม่อยากอยู่ ซึ่งตอนที่คุยโทรศัพท์ ตนไปดูลูกค้าที่ร้านเสริมสวยอีกคนละหมู่บ้าน แต่ก็ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในมือถือซึ่งกล้องติดไว้หน้าร้าน ก็ไม่เห็นสามีเดินออกมาหน้าร้านเลย พยายามโทรศัพท์ผ่านไลน์ ก็ไม่มีคนรับสาย กระทั่ง 18.00 น. ปิดร้านเสริมสวย แล้วกลับมาที่อู่ไม่เห็นสามี แต่ประตูห้องนอนซึ่งอยู่ในอู่ล็อกจากด้านใน จึงเข้าไปในห้องเก็บเครื่องมือแล้วปีนขึ้นไปดู ก็เห็นสามีเสียชีวิตแล้ว ก็ตกใจแทบช็อกไม่คิดว่าสามีจะทำแบบนี้ ตั้งสติได้ก็โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว