ยังวิกฤต 3 ตำบลอ่วม น้ำสูง 2 เมตร กฟภ.ต้องนั่งเรือขยับมิเตอร์ไฟ ให้พ้นขีดอันตราย

ยังวิกฤต 3 ตำบลอ่วม น้ำสูง 2 เมตร กฟภ.ต้องนั่งเรือขยับมิเตอร์ไฟ ให้พ้นขีดอันตราย

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ลุ่มแม่น้ำยมในพื้นที่จังหวัดพิจิตรยังวิกฤตหนัก หลายหมู่บ้านโดยเฉพาะในพื้นที่ต.สามง่าม ต.รังนก ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม ระดับน้ำเกินจุดวิกฤตมาหลายวัน เนื่องจากมีมวลน้ำเหนือจากจ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และมวลน้ำลำคลองสาขาไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับฝนยังตกลงมาต่อเนื่อง ประชาชนได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 33 หมู่บ้าน 1049 หลังคาเรือน ต่างต้องช่วยเหลือตนเอง ขนย้ายทรัพย์สินมาไว้บนถนน และต้องนำเรือออกมาพายเข้าออกหมู่บ้าน เพื่อจัดหาเสบียงอาหาร น้ำดื่มกันเอง ตามวิถีชาวบ้าน ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะระบบประปาของหมู่บ้านจระเข้ผอม หมู่ที่ 1 ต.รังนก ไม่สามารถใช้ได้มาหลายวัน เนื่องจากถูกน้ำท่วม ขณะนี้ชาวบ้านเริ่มขาดแคลานน้ำดื่ม

ขณะที่ระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร ด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอสามง่าม ระดมเจ้าหน้าที่ลอยเรือลงไปในพื้นที่น้ำท่วมที่บ้านเกาะสาริกา หมู่ที่ 4 ต.รังนก ขยับหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าที่เสาไฟให้สูงขึ้น จากเดิมให้พ้นขีดอันตราย เนื่องจากหลายหมู่บ้านน้ำจะท่วมใกล้ถึงระดับหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าแล้ว อย่างไรก็ตามจังหวัดพิจิตรถือว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมในปีนี้มากเป็นประวัติการ

นายสายัณห์ กาวีวงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ลุ่มน้ำยม 4 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.สามง่าม 3 ตำบล 33 หมู่บ้าน 1049 หลังคาเรือนอำเภอโพธิ์ประทับช้าง 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1600 หลังคาเรือน อ.บึงนาราง 5 ตำบล 32 หมู่บ้าน 470 หลังคาเรือน และอ.โพทะเล 8 ตำบล 37 หมู่บ้าน 361 หลังคาเรือน ล่าสุดมีองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น 2 แห่ง คือ เทศบาลตำบลสามง่าและอบต.กำแพงดิน ขอเรือสนับสนุนเนื่องจาก ประชาชนไม่มีเรือในการสัญจรในหมู่บ้านเนื่องจากน้ำท่วมบ้านสูงมาก บางหลังท่วมถึงชั้น 2 ซึ่งตนประสานขอยืมเรือจากส่วนกลาง ได้เรือมาแล้ว 16 ลำ เพื่อนำเรื่องไปให้กับ อบต.กำแพงดิน และอบตสามง่าม แล้ว

สำหรับจังหวัดพิจิตร เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ไหลผ่านหลายอำเภอ ก่อนจะไหลไปประจบกันที่ อ.ชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่หน่วงน้ำก็ว่าได้ เพราะมวลน้ำที่ไหลมาจากภาคเหนือตอนบน จะไหลมาชะลอตัวในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตาม น้ำต้องท่วมจ.พิจิตรก่อน และปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านลุ่มน้ำยม ได้รับความเดือดร้อนเหมือนจังหวัดอื่นๆ ทางภาคเหนือเหมือนกัน อีกทั้งน้ำท่วมนั้นจะท่วมยาวนานนับเดือนๆ กว่าจะลดลงสู่ภาวะปกติ ไม่เหมือนพื้นที่ภาคเหนือตอนบนน้ำจะหลากมาเร็วไปเร็ว

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ