รวบรายที่ 4 นายเล็ก เพื่อนสนิทเสี่ยก้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายปอ หนวดงาม
วันที่ 8 ต.ค. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ และ พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.ท.วุฒิพงษ์ สุพรรณชนะบุรี, ร.ต.ท.ภูธร ทองทวี รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าพนักงานตำรวจ ชป.6 กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายวิชชานนท์ หรือ เล็ก อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.88/2565 ลง 10 ก.พ. 2565 ในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จับกุมได้ที่ แฟลตแห่งหนึ่งย่านตลาดยงเจริญ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
สืบเนื่องจากประมาณประมาณต้นปี 2565 นายโจ้ฯ ได้ถูกชักชวนให้ไปทำงานที่บ่อนคาสิโนของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อไปถึงแล้ว พบว่าตนได้ถูกบังคับให้เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเหยื่อผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ แล้วหลอกลวงให้ลงทุน โดยมีชาวต่างชาติเป็นหัวหน้าคอยควบคุมสั่งการ ในระหว่างที่ทำงานนั้นได้ไร้ซึ่งอิสรภาพและถูกบังคับให้ทำงาน โดยมีคนไทยและคนเวียดนามอีกหลายคน หากใครไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย ก็จะถูกให้อดอาหาร ไปจนถึงทำร้ายร่างกาย
ตนได้ขอกลับบ้าน แต่ นายปอ หนวดงาม ซึ่งเป็นหัวหน้าคุมพนักงานคอลเซ็นเตอร์ชาวไทย ได้บอกว่า หากต้องการกลับบ้านต้องจ่ายเงินแลกกับอิสรภาพ ตนจึงให้ทางที่บ้านหาเงินมาจ่ายให้ จนสามารถกลับประเทศไทยได้ จากนั้น นายโจ้ฯ ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมยืนยันตัวบุคคล
โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้มีการแบ่งหน้าที่กันหลอกลวงกันเป็นขบวนการ เริ่มจากการฝึกสอนการหลอกลวง จากชาวต่างชาติผ่านล่ามแปลชาวไทย ฝ่ายไอทีในการทำระบบหลอกลวง และฝ่ายที่คอยควบคุมดูแลพนักงานคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ เป็นที่น่าตกใจว่า มีพนักงานคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยส่วนหนึ่ง ที่สมัครใจทำงาน โดยแสดงความดีใจเมื่อหลอกลวงเหยื่อได้ และได้รับผลประโยชน์จากการหลอกลวงนั้น
โดยเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ติดตามจับกุม น.ส.วันวิสาข์ ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ หนึ่งในเครือข่ายของนายปอ หนวดงาม จากการสืบสวนขยายผลได้ทราบว่า ขบวนการนี้มี น.ส.บุญญิสาหรือเจ๊ปุ้ย และ นายแสนดีหรือเสี่ยก้อง ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ทำหน้าที่บริหารในการหลอกลวง โดยมี นายปอ หนวดงาม เป็นผู้จัดหาและควบคุมดูแลพนักงาน
ต่อมา ช่วงเดือน ส.ค. 2567 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ติดตามจับกุม น.ส.บุญญิสา หรือ เจ๊ปุ้ย และ นายแสนดี หรือ เสี่ยก้อง สองผัวเมีย ขณะที่กลับมาภูมิลำเนาที่ กทม. หลังจากที่ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากการสืบสวนขยายผลได้ทราบว่า คดีนี้ยังมี นายวิชชานนท์หรือเล็ก เพื่อนสนิทเสี่ยก้อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ในแก๊งนายปอ หนวดงาม ยังคงลอยนวลหลบหนีหมายจับอยู่ ทางเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด
กระทั่ง วันที่ 19 ส.ค. 2567 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบ นายวิชชานนท์หรือเล็ก ได้หลบหนีมาอยู่ที่ละแวก แฟลตแห่งหนึ่งย่านตลาดยงเจริญ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. จึงได้เข้าตรวจสอบ จนสามารถติดตามจับกุมได้ นำส่ง สภ.ตาพระยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า นายปอ หนวดงาน ซึ่งเป็นรุ่นน้องของตนได้ชักชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินเว็บพนันที่ เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าเป็นงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชน จึงได้หลบหนีกลับประเทศไทย
เตือนภัย ตำรวจสวบสวนกลางเตือนภัยพี่น้องประชาชน ในการไปทำงานต่างประเทศ ให้ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพราะอาจจะถูกหลอกลวง บังคับให้ทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำมาซึ่งการถูกกักขัง บังคับ ขู่เข็ญ ไร้ซึ่งอิสรภาพ ต้องจำยอมทำตามคำสั่งในการหลอกลวงประชาชน ตกเป็นผู้เกี่ยวกับข้องกับการกระทำความผิด อันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากท่านต้องการความช่วยเหลือ หรือประสงค์แจ้งข้อมูล สามารถติดต่อมาที่ตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน