กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป, พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมษฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม นายธวัชชัยฯ อายุ 26 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ จ.232/2565 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน สถานที่จับกุม ขนำไม่มีเลขที่ ม.๖ ต.เกราะเพชร อ.หัวไทร จว.นครศรีธรรมราช

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ผู้กล่าวหาได้สั่งซื้อน้ำมันพืช จำนวน 2 ลัง ราคา ลังละ 490 บาท เป็นเงิน จำนวน 980 บาท จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ของนายธวัชชัยฯ ต่อมาได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวผ่านบัญชีธนาคารต่อมาไม่สามารถติดต่อกับนายธวัชชัยฯ ได้ จึงทราบว่าถูกหลอก ผู้กล่าวหาจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งภายหลังผู้กล่าวหามาทราบว่า ผู้ใช้ไม่มีน้ำมันพืชจำหน่ายตามที่ได้โพสต์ขายจริง โดยเป็นเฟซบุ๊กปลอม อันเป็นการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ เปิดเป็นระบบสาธารณะ บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริงและพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามาแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่า ผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เชื่อว่าน่าจะหลบหนี ผู้เสียหายจึงรีบมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งเหตุให้ทราบ เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุให้ถึงที่สุด

จากการตรวจสอบประวัติคดีเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง พบยังมีอีก 2 หมายจับ 1.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.526/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง 2 .ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลบึงกาฬ ที่ 160/2567 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นายธวัชชัยฯ ผู้ต้องหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน อีกทั้งยังมีหมายจับ 2 หมายจับข้างต้น ได้หลบหนีไปพักอาศัยที่ขนำไม่มีเลขที่ ม.6 ต.เกราะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เจ้าพนักงานตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุม และได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ม่วงสามสิบ จวอุบลราชธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน