หลายคนยังไม่รู้ ไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า เปิดขั้นตอนต่ออายุใบขับขี่ 2567
ต่อใบขับขี่ 2567 กรมการขนส่งทางบก เปิดให้บริการโดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ต้องการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่ผ่านการอบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com มาแล้ว โดยนำผลผ่านการอบรมออนไลน์ (e-Learning ) พร้อมใบรับรองแพทย์เข้ารับบริการต่ออายุใบอนุญาตขับรถได้ทันที ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
กรณีผู้ที่ไม่ได้อบรมภาคทฤษฎีผ่านระบบออนไลน์และประสงค์อบรมที่สำนักงาน สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถฉบับเดิม ใบรับรองแพทย์ เข้ารับบริการได้ทันที
ผู้มีใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวชนิด 2 ปี ต่อ 5 ปี ที่ใบอนุญาตเดิมสิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี
-ผู้มีใบอนุญาตขับรถชนิด 5 ปี ต่อ 5 ปี
-การขอรับใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ
-การขอรับใบแทนใบอนุญาตขับรถที่ชำรุด สูญหาย หรือขอแก้ไขรายการ
-การขอหนังสือรับรองใบอนุญาตขับรถเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ
-การขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตขับรถสาธารณะ
สามารถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า (walk in) หรือจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้เช่นเดียวกัน
โดยจะให้บริการผู้ที่จองคิวล่วงหน้าเป็นอันดับแรก ส่วนผู้ที่ไม่ได้จองคิวมาจะเข้ารับบริการในลำดับถัดไป สำหรับชาวต่างชาติที่ประสงค์ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานครบถ้วนแล้วจะออกใบนัดเพื่อดำเนินการในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ย้ำเตือนขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างรับทำธุรกรรมด้านใบอนุญาตต่างๆ ทั้งบนโลกออนไลน์หรือจะเป็นหน้าม้าที่มีพฤติกรรมเคาะกระจกรถรับทำธุรกรรมแทน บริเวณหน้าสำนักงานขนส่ง กรมการขนส่งทางบกขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวเด็ดขาด ซึ่งเสี่ยงสูญเสียทั้งทรัพย์สินและเอกสารสำคัญส่วนบุคคล ขอเน้นย้ำว่าการดำเนินการทำธุรกรรมด้านใบขับขี่ต้องดำเนินการด้วยตนเอง ที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น และสามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบขับขี่มีอะไรบ้าง?
1. ใบขับขี่เดิม
2. บัตรประชาชนฉบับจริง
3. ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
4. หลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com (ภาพแคปหน้าจอ หรือ QR CODE เพื่อแสดงหลักฐาน)
ต่อใบขับขี่มีขั้นตอนอย่างไร
1. หลังจากจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ ได้วันและเวลานัดหมายเรียบร้อยแล้ว ให้เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งที่จองคิวไว้ หรือเข้ารับบริการแบบ walk in ได้เลย
2. ยื่นเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ และเขียนใบคำขอต่อใบขับขี่
3. ทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 4 อย่าง ได้แก่
-ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
-ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง
-ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
4. ชำระเงินค่าใบขับขี่ 500 บาท และค่าคำขอ 5 บาท รวมเป็นเงิน 505 บาท หรือ รถจักรยานยนต์ 255 บาท
5. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่