เพลิงไหม้เผาวอดรถยนต์ 2 คัน ที่เเท้เจอต้นเหตุ เข็ดไปอีกนาน

เพลิงไหม้เผาวอดรถยนต์ 2 คัน ที่เเท้เจอต้นเหตุ เข็ดไปอีกนาน

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.ท.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต  ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้รถที่จอดอยู่ภายในซอยระหว่าง ธนาคารไทยพาณิชย์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาภูเก็ต ถ.รัษฎา อ.เมือง จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ตรุดไปตรวจสอบและระงับเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นซอยขนาด 6 เมตรเดินรถแบบวันเวย์ พบรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน กพ 5015 ภูเก็ต  กำลังถูกไฟลุกไหม้อย่างหนักและรวดเร็ว ประชาชนบริเวณใกล้เคียงต่างวิ่งหนีพร้อมกับนำรถต่างๆ ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากจุดดังกล่าว จากนั้นเพลิงได้ลามไปติดรถเอสยูวี  ยี่ห้อซูบารุสี  บรอนซ์เงิน ทะเบียน ขง 4470 ภูเก็ต  ที่จอดติดกัน อีก 1 คัน  ทางชาวบ้านได้นำถังดับเพลิงมาช่วยดับ  แต่ดับไม่ได้เนื่องจากเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ตมาถึงได้เร่งระดมฉีดน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อระงับเพลิง โดยใช้เวลา 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งคัน ส่วนรถเอสยูวีซูบารุถูกเพลิงเผาไหม้ด้านข้างพังเสียหาย จากนั้นได้ประสาน พฐ.ภูเก็ตรุดตรวจสอบเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เจ้าของรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ซึ่งต้นเพลิงทราบชื่อคือ นายสุภชัย แซ่หลิม อายุ 50 ปี โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพร้อมลูกชาย  มาดูขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้าบางเหนียว  ในโอกาสครบ 120 ปี โดยได้นำรถมาจอดไว้ที่บริเวณข้างรถเอสยูวียี่ห้อซูบารุดังกล่าว เมื่อดูขบวนแห่พระเสร็จสิ้นได้เดินกลับที่รถพร้อมกับลูก  และได้เก็บปะทัดไข่มังกร กระเทียม และ ดอกไม้ไฟไว้ด้านหลังรถคันดังกล่าว

ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ ได้ยินเสียงเป๊กๆ แต่ตนยังไม่เห็นไฟเนื่องจากคุยโทรศัพท์อยู่  เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ  จะชวนลูกไปหาข้าวกิน โดยหันไปถามลูก จึงได้เห็นไฟกำลังติดอยู่ที่ท้ายรถ  ตนจึงรีบปิดกุญแจรถ พร้อมได้วิ่งลงจากรถพร้อมลูกอย่างรวดเร็ว และคิดว่าด้วยความร้อนภายในรถ ทำให้กระเทียมและไข่มังกรเกิดปะทุและลุกไหม้กับเสื่อที่อยู่ในรถ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณท้ายรถและลุกลามเผาไหม้รถทั้ง 2 คัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.ภูเก็ต รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ