เปิดข้อสันนิษฐาน ต้นเพลิงรถบัสไฟไหม้ สงสัยการนำรถเก่ามาดัดแปลงวิ่ง
จากกกรณีเหตุสลดรถบัสทัศนศึกษา พานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดไฟลุกไหม้ บริเวณ ถ.พหลโยธินขาเข้า กม.28+236 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เบื้องต้นทำให้มีผู้สูญหาย และรอพิสูจน์อัตลักษณ์ 23 ราย ซึ่งมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุมียางระเบิด ก่อนเกิดเหตุไฟลุกไหม้ ครูพยายามช่วยนักเรียนออกมา แต่ได้เพียงบางส่วน การเข้าไปช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก และพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากบริเวณท้ายรถ
เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น นาย พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) วิเคราะห์ต้นเหตุไฟไหม้รถบัสครั้งนี้ว่า ปกติรถบัสขนาดใหญ่ถังน้ำมันอยู่ด้านหลัง เมื่อเกิดเหตุการณ์ชนจากด้านหน้า อาจเกิดจากระบบไฟด้านหน้าทำให้เกิดการปะทุของไฟ เพราะเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า ทำให้เกิดไฟลัดวงจร ประกอบกับระบบไฟเกิดความร้อน ทำให้เกิดการลุกไหม้ไปตามสายไฟที่เลี้ยงระบบทั้งคันรถ
ด้านหน้าของรถบัส ถ้าเป็นต้นเพลิง จะเป็นจุดควบคุม เมื่อเวลาเกิดเหตุก็มีโอกาสช็อตเกิดขึ้นได้ กรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่า ตัวถังเชื้อเพลิงบริเวณกลางตัวรถ ไม่ค่อยมีเขม่าดำ อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ในพื้นที่เปิด และมีการรั่วไหลของก๊าซ
เหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้น ถ้ามีเหตุที่ประตูฉุกเฉินล็อก ไม่สามารถเปิดได้ อาจเป็นสาเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะรถบัสส่วนใหญ่มีระบบเปิด-ปิดประตูไฟฟ้า เมื่อระบบไฟลัดวงจร ก็ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้
ที่น่าสงสัยคือ ต้องมีการตรวจสอบว่ารถบัสคันดังกล่าว มีการดัดแปลงนำรถเก่ามาใช้งานหรือไม่ เพราะรถบัสรุ่นเก่าไม่มีทางหนีไฟอย่างชัดเจน หรือบางครั้งมีก็ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากมีสภาพเก่า ขณะที่อุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง บนรถมีหรือไม่ และสามารถใช้งานได้ปกติหรือเปล่า
ปกติรถบัสรุ่นใหม่ จะทำตัวรถด้วยวัสดุไม่ติดไฟ แต่ถ้าเป็นรถที่ดัดแปลงรุ่นเก่า มีวัสดุที่ติดไฟง่าย เช่น เบาะ พื้นไม้ ซึ่งรถบางคันที่มีการดัดแปลง ใช้วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น ซึ่งติดไฟง่ายเข้ามาตกแต่งในรถ และเมื่อเกิดเหตุจะทำให้เชื้อเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว