บ.เอกชนร้องสื่อ ตรวจสอบการประมูลงานทำความสะอาดในสภาฯ อาจเข้าข่ายไม่โปร่งใส่ ตั้งข้อสังเกต ส่งซิกตัวเลขให้บริษัทอีกเจ้า
เรือเอกหญิงกัณตวรรณ แก้วบัวดี กรรมการจัดผู้จัดการบริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเสนอราคางานจ้างเหมาทำความสะอาดของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
โดยเรือเอกหญิงกัณตวรรณ เปิดเผยว่า บริษัท ได้รับการว่าจ้างในโครงการทำความสะอาดภายในสภาฯมานานกว่า 10 ปี โดยที่ผ่านมาก็ได้ประมูลแข่งขันเสนอราคาตามขั้นตอนปกติ แต่ในครั้งล่าสุดซึ่งมีโครงการจ้างเหมาทำความสะอาดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ก็ได้มีเจ้าหน้าที่สภาฯส่งอีเมลแจ้งมาที่บริษัทเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 เพื่อขอให้บริษัทส่งใบเสนอราคาจ้างเหมาบริการทำความสะอาดสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และได้แจ้งว่าแก้ทีโออาร์ ซึ่งบริษัทเข้าใจว่าที่ให้ส่งใบเสนอราคาเพราะต้องเอาไปทำราคากลาง เหมือนการสืบราคา เนื่องจากแก้ไขทีโออาร์ เราจึงส่งราคากลางเดิมกลับไปทางอีเมล เพราะเปลี่ยนยังไงขอบเขตงานก็ใช้จำนวนคนเท่าเดิม หรือหากเพิ่มขึ้นหรือลดลง ก็คงไม่ทำให้ตนวุ่นวาย อีกทั้งที่เราหลงเชื่อเพราะไม่มีเอกสารต้องยื่นแนบ และในวันถัดไปก็ให้พนักงานบริษัทนำเอกสารตัวจริงไปยื่น นอกจากนี้เราก็ได้สั่งของมาไว้เพื่อเตรียมทำงานอีก 3 เดือน แต่เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 กลับมีประกาศสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกคือ อีกบริษัท ที่เสนอราคา 15,099,840 บาท ถูกกว่าราคาที่บริษัทตนเสนอไปประมาณ 4 แสนบาท
เรือเอกหญิงกัณตวรรณ เล่าอีกว่า ตนได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ของสภาฯ เพราะตนสงสัยว่าบริษัทตนไม่ได้เพราะอะไร เจ้าหน้าที่สภาฯแจ้งว่าราคาที่บริษัทตนเสนอไปแพงกว่าของอีกบริษัท ตนจึงถามว่าเราประมูลกันไปเมื่อไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ถามย้ำไปแล้วว่าเป็นการยื่นราคากลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเขาเอาราคากลางไป และอีกเจ้าก็มายื่นราคาต่ำกว่า เราก็สงสัยว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ ตนไม่เคยเจอแบบนี้ การประมูลงานไม่ได้เป็นแบบนี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางคนบอกกับพนักงานของตนว่า “มัดชาอยู่ไม่ได้แล้ว ออกไปบ้าง ออกไปอยู่ที่อื่นบ้าง ให้เจ้าอื่นเขามาทำบ้าง” ตนยืนยันว่าที่ผ่านมาบริษัทของตนไม่ได้ผูกขาด เราประมูลตามขั้นตอน ไม่ว่าสภาฯจะร้องขออะไร เราก็ทำให้ แม้บางครั้งค่าจ้างเราได้รับช้า 6 เดือน หรือ 7เดือนก็มี อีกทั้งการให้ตนส่งราคาในทางอีเมล ทุกคนก็เห็นราคาที่บริษัทตนเสนอ และการยื่นราคางานระดับ 15 ล้านบาท มันต้องมีเอกสารมากกว่านี้ งานแค่หลัก 2-3 ล้านบาท ยังต้องมีเอกสารประกอบ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย มีใบเสนอราคาใบเดียว
ส่วนการที่สภาฯได้เปลี่ยนทีโออาร์ใหม่นั้น เรือเอกหญิงกัณตวรรณ บอกว่า ตนก็สงสัยว่าจะแก้เพื่ออะไร ในเมื่อคุณมีงบประมาณเท่าเดิม เขาบอกกับตนเองว่าเขาไม่มีงบ อย่างไรก็ตามตนเพิ่งทราบว่าการเปลี่ยนทีโออาร์ทำให้เขาสามารถไม่ต้องจ้างบริษัทเดิมได้ สามารถจ้างบริษัทอื่นได้ ดังนั้นพูดง่ายๆเขาทำเพื่อจะเอาเจ้าใหม่ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่งานระหว่างปีเขาจะไม่แก้ทีโออาร์ เขาจะแก้เวลาประมูลใหญ่ จึงแปลกมากจ้าง 3 เดือนกลับแก้ทีโออาร์ ตนคิดว่ามันผิดสังเกตหลายอย่างมาก นอกจากนี้ตนทราบว่าบริษัทนี้ทำงานที่วุฒิสภา แต่เขาหลุดงานวุฒิสภา และวันนี้เขาได้นำใบสมัครมาให้พนักงานของตนไปทำงานด้วยแล้ว และยังฝากพนักงานมาถามเจ้าของว่าจะขายอุปกรณ์ให้หรือไม่ แสดงว่าเขาหาอุปกรณ์ไม่ทัน และพนักงานที่จะต้องนำมาทำงานก็เกือบ 300 คน ตนจึงมาร้องสื่อ เพราะตนเหลือเวลาอีกถึงแค่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ก็ต้องขนของออกมาจากสภาฯแล้ว อุปกรณ์ที่ตนได้เตรียมไว้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็เอามาลงไว้หมดแล้ว เพราะคิดว่าต้องเริ่มงานวันที่ 1 ตุลาคม
ขณะเดียวกันช่วงบ่ายวันนี้ นางวราพร เกตุแก้ว ผู้จัดการโครงการงานรักษาความสะอาดในรัฐสภา บริษัท มัดชา เซอร์วิส จำกัด ได้เข้ายื่นร้องเรียนเรื่องดังกล่าวต่อรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบและชี้แจงขอเท็จจริง
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีนายอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยนายอาพัทธ์ ชี้แจงว่า เขามีคณะกรรมการคัดเลือก ส่วนที่บริษัทมัดชาให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่สภาส่งอีเมลแจ้งให้บริษัทเพื่อขอราคากลาง แต่ท้ายที่สุดกลับเอาราคามาพิจารณาคัดเลือกนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ต้องสอบถามคณะกรรมการที่จัดซื้อจัดจ้างเรื่องนี้ ซึ่งตนก็ต้องเห็นชอบตามที่คณะกรรมการเสนอมา ขั้นตอนและรายละเอียด ตนไม่ทราบ อยู่ที่คณะกรรมการ ซึ่งประเด็นนี้งบประมาณมันออกช้า เขาจึงทำการคัดเลือกหาบริษัทมา โดยใช้วิธีคัดเลือก เลือกมา 3-4 บริษัท แล้วเลือกมา 1 บริษัทให้มาดำเนินการในช่วง 3 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคมก่อน หลังจากนั้นก็จะประกวดราคาอีกครั้ง ซึ่งโดยปกติเขาจะใช้การประมูลแบบอีบิดดิ้ง ถ้ามีเวลาเหลือ แต่ครั้งนี้เร่งด่วน จึงใช้วิธีการคัดเลือก
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน