นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า จากข้อมูลการลงทะเบียนในเฟสแรก พบว่ามีผู้ลงทะเบียนซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับสิทธิ์ในเฟสแรกไปแล้วประมาณ 10 ล้านคน ทำให้จำนวนผู้มีสิทธิ์รับเงินในเฟส 2 ลดลงเหลือประมาณ 26 ล้านคน

แม้ว่าจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์จะลดลง แต่นายจุลพันธ์ยืนยันว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 อย่างแน่นอน แต่จะพิจารณาวงเงินที่จะจ่ายอีกครั้ง โดยอาจลดลงเหลือ 5,000 บาทต่อคน เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่ได้กำหนดวันประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไขของโครงการเฟส 2 รวมถึงวงเงินที่จะจ่ายให้กับประชาชน

สำหรับโครงการเฟสแรกที่แจกเงินให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการนั้น เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.35% ใครบ้างมีสิทธิได้เงินดิจิทัล เฟส 2 จำนวน 5,000 บาท

คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป

มีบัตรประชาชน มีชื่อและที่อยู่ในทะเบียนบ้าน

คนที่มีเงินเดือนไม่ถึง 70,000 บาท หรือรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (ตามปีภาษี 66) และมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท (นับถึง 31 มี.ค. 67)

ที่สำคัญ หากรัฐบาลสามารถวางระบบเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ได้ทันภายในกรอบปี 2568 คนทั่วไปกลุ่มนี้กว่า 26 ล้านคนที่ได้สิทธิในเดือนตุลาคมนี้ จะต้องโอนเงินจ่ายผ่านแอป ไม่สามารถกดเป็นเงินสด และไม่สามารถซื้อของได้ตามใจชอบได้

เงินดิจิทัลซื้ออะไรได้บ้าง?

ใช้ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค หรือเครื่องมือทำกินในร้านค้า รัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน (ปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและท้องถิ่นทั่วประเทศ)

ไม่สามารถใช้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม และผลิตภัณฑ์จากกัญชาและพืชกระท่อม

ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้

ไม่สามารถใช้ซื้อบัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณีได้

ไม่สามารถซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้

ไม่สามารถเบิกถอนเป็นเงินสดได้