วันที่ 25 ก.ย.67 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากกรณี คุณพิชญ์อาภา จำนงค์เนียร นักธุรกิจสาว เดินทางนำเอกสารหลักฐานขอให้เร่งรัดการดำเนินคดี “หมิ่นประมาท” กับบริษัทอสังหาฯ ชื่อดัง หลังถูกคู่กรณีกล่าวหาฉกฉวยผลประโยชน์จากการลงทุน และพัฒนาที่ดิน จนเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนทุกหน่วยงาน กว่า 13 ครั้ง ผ่านมานานกว่า 2 ปี แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เพื่อให้เร่งรัดการดำเนินคดี โดยมี พ.ต.อ.วิทวัส บูรณะ รอง ผบก.สฝจ. เป็นตัวแทนรับหนังสือ

คุณพิชญ์อาภา เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาร้องเรียนคดี หมิ่นประมาท ซึ่งเรื่องดังกล่าวเรื้อรังมานานถึง2ปีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ที่ตนไปแจ้งความ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเริ่มต้นมาจาก ตนมีที่ดินตาบอดแถวย่าน เลียบด่วนรามอินทราและคู่กรณีได้มาสร้างอาคารสูง30ชั้นกว่า6ตึก ซึ่งติดกับที่ดินของตนจึงทำให้มีข้อพิพาทกัน ที่ผ่านมาตนเคยเสนอขายที่ดินดังกล่าวให้แล้ว โดยทางคู่กรณีได้เสนอราคามาให้ ซึ่งเป็นราคาที่ตนรับได้ แต่ต้องให้ตนไปซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อให้เชื่อมต่อกับที่ดินของคู่กรณี แต่ภายหลังทางคู่กรณีกลับคำและขอซื้อที่ดินของตนในราคาที่ต่ำ ทำให้ตนต้องเกิดข้อพิพาทกับทางบริษัทคู่กรณี ตนจึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแต่ทางคู่กรณีได้มีการชี้แจง หมิ่นประมาทตนทำให้เกิดความเสียหาย มีผลกระทบต่อธุรกิจ ตนจึงไปแจ้งความที่สน.ดินแดง และทางพนักงานสอบสวนได้มีหมายเรียกทางคู่กรณี2ครั้ง แต่คู่กรณีไม่มารับทราบข้อหาตามหมายเรียก และในครั้งที่3กลับกลายเป็นว่าทาง พนักงานสอบสวนได้ออกความคิดเห็นไปถึงทางอัยการ เพื่อสั่งยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่า พิจารณาแล้ว คู่กรณีไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ตนจึงติดตามจนทางอัยการส่งเรื่องกลับมาที่พนักงานสอบสวนให้สอบใหม่แต่ก็สั่งยกฟ้องอีกเช่นเดิม ตนจึงได้ไปร้องเรียนอีก13หน่วยงาน แต่คดีก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้า ซึ่งคาดว่ามีข้าราชการตำรวจระดับสูงคอยช่วยเหลือในคดีนี้ ทำให้คดีไม่คืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ตนจึงมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยากให้คดีคืบหน้า ดำเนินตามกฏหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะตนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายดูแล้ว ข้อความชี้แจงของคู่กรณีหมิ่นประมาทเต็มๆ

คุณพิชญญ์อาภา กล่าวอีกว่า หากยื่นครั้งนี้แล้วคดียังไม่คืบหน้าอีก คงต้องยื่นเรื่องร้องเรียนกับทางรูปปั้นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แทน เผื่อคดีจะคืบหน้าบ้างเพราะที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน