วันที่ 23 ก.ย.67 ร.ต.อ. ฤกษ์ วิเชียร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถไถ ที่บริเวณบ้านโคกกลาง ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ คาดมีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยลำมาศโคกกลาง

ที่เกิดเป็นถนนคอขวดก่อนถึง4 เลน สายลำปลายมาศ-นางรอง พบรถไถนายี่ห้อคูโบต้า ขนาด 46 แรง ด้านหลังบรรทุกปุ๋ยจอดอยู่ริมทาง ห่างกันประมาณ 10 เมตรด้านหลังรถไถ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 1กณ 3375บุรีรัมย์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน

และข้างกับรถจักรยานยนต์พบร่างนายวีระพงษ์ บุญโท อายุ38ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.6 บ้านหนองโดน ต.หนองโดน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นอนไม่ได้สติสภาพหน้าอกมีรอยพกช้ำ หน่วยกู้ภัยพยายาม PCR เพื่อช่วยเหลือ แต่ไม่ตอบสนองจึงนำร่างไปที่โรงพยาบาลลำปลายมาศ หมอระบุเสียชีวิตตั้งแต่ที่เกิดเหตุ

สอบถามนางอุไลพร บุญโท อายุ42ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่าสามีมาเอาบัญชีธนาคาร หลังจากก่อนหน้านี้ได้วิ่งเต้นกับธนาคารเพื่อผูกพร้อมเพย์ 2 วันกว่าจะผูกได้เพราะคนใช้บริการมาก

แต่ธนาคารให้ไปหาบัญชีธนาคารอันเก่ามาให้ธนาคาร สามีกลับมาหาแต่ไม่เจอธนาคารบอกให้ไปแจ้งความแล้วเอาใบแจ้งความไปยื่นขอออกสมุดบัญชีใหม่ และวันนี้ธนาคารนัดให้ไปเอาบัญชีธนาคาร ขากลับไปชนรถไถเสียชีวิตดังกล่าว

นางอุไลพร เล่าทั้งน้ำตาว่าสามีเป็นเสาหลักอาชีพรับจ้าง เงินที่จะได้มาจากรัฐบาลคนละ 10,000 บาท ตนกับสามีจะได้คนละ 10,000 รวมเป็น 20,000 บาทตนกับสามีจะได้รับวันเดียวกันคือวันที่ 27 ก.ย.และได้วางแผนการใช้เงินเอาไว้แล้ว

ส่วนหนึ่งจะเอาไปซ่อมบ้านที่ทรุดโทรม บางส่วนสามีบอกจะเอาไปซื้ออุปกรณ์หาปลา และเอาไปใช้ในการดำเนินชีวิตในครอบครัว

แต่ตอนนี้ทุกอย่างพังทลายไปหมด ไม่มีแม้เงินค่าทำศพสามี เงินฌาปนกิจศพหมู่บ้านจะได้เพียง 27,000 บาท แถมเงินอีก 10,000 บาทของสามีจะได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้เพราะเสียชีวิตไปแล้ว หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลเห็นใจครอบครัวที่ยากจน เติมเงิน 10,000 บาทเข้าบัญชีสามีให้สามีได้ภูมิใจเป็นครั้งสุดท้ายส่งวิญญาณสามี หากได้มาจริงถือว่าเป็นเงินก้อนโตที่สุดที่สามีไม่เคยได้รับแบบนี้มาก่อน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์ รายงาน