รวบหนุ่มรับฝังมุก-ฉีดขยายขนาดเจ้าโลก ติดเชื้อรุนแรง
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, เจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, ดร.ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ร่วมจับกุม นายกิตติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ดําเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดําเนินกิจการ สถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต” ตรวจ ยึดของกลาง 22 รายการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ทําการสืบสวน กรณีมีบุคคลเปิดให้บริการผ่าตัดฝังมุก เสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายผ่านเฟซบุค “ไม้เลื้อย โมดิฟายดิ์” โดยเปิดรับฝังมุก ซิลิโคนและฉีดฟิลเลอร์ ให้ประชาชนทั่วไป โดยมีผู้รับการฉีดซิลิโคนเพิ่มขนาด อวัยวะเพศ จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรง แม้หลังจากรับการรักษาอาการอักเสบแล้ว ยังมีอาการ เจ็บปวดทรมานอวัยวะเพศ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และไม่สามารถใช้งานหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตั้งแต่ไปฉีด เพิ่มขนาดอวัยวะเพศมาจนถึงปัจจุบัน ทําให้ประสบปัญหาในการใช้ชีวิตประจําวันอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงทําการสืบสวนจนทราบถึงตัวผู้กระทําผิดโดยพบว่า มีการนัดหมายเพื่อทําการฉีด เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย และฝังมุกโดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่ในการนัดหมายจริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการ สุขภาพ(สบส.) ตรวจสอบบ้านทาวเฮาว์ 2 ชั้น ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบ นายกิตติ กร (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี กําลังให้บริการลูกค้าที่นัดหมายฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย โดยรับว่าตน ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด
โดยบ้านหลังดังกล่าว ดัดแปลงชั้น 2 ของบ้าน เป็นสถานที่ทําการรับผ่าตัด หรือฉีดเพิ่มขนาด โดยไม่มีเตียง และเครื่องมือแพทย์ที่ถูกสุขอนามัยแต่อย่างใด พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยา, เวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 22 รายการ จึงร่วมกันจับกุมนายกิตติกรฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดําเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดําเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนญุ าต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต”
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่าง ใด ซึ่งเรียนจบการศึกษาระดับชั้น ม.3 จากจังหวัดพังงา และได้เรียนวิชาฝังมุกและเริ่มทําครั้งแรก ตอน อายุ 14 ปี และทํามาตลอดรวม ๆ แล้ว ประมาณ 20 ปี โดยมีลูกค้า ประมาณ เดือน ละ 2-3 ราย เป็นรายได้ ครั้งละ 5,000-20,000 บาท การกระทําของผู้ต้องหาดังกล่าวเป็นความผิดตาม 1.พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ดําเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 3. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับ อนุญาต” ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าการฝังมุก หรือฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายเป็นรสนิยมทางเพศส่วนตัวในแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ต่อ สุขภาพในแง่ทางการแพทย์แต่อย่างใด การผ่าตัดเพื่อใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจทําให้เสี่ยงต่อ การอักเสบจนถึงขั้นติดเช้ือและอาจส่งผลร้ายให้อวัยวะเพศใช้การไม่ได้ และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทํา ความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลท่ีสวมรอยเป็นหมอ, หมอเถ่ือน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตํารวจจะดําเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดําเนินคดีโดยเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน