เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 สภ.ปลวกแดง รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 3 ราย ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ ตรวจสอบภายในบ้าน มีกลิ่นควันคละคลุ้งฟุ้งกระจายทั่วบ้าน จึงเข้าไปในห้องนอน พบกับภาพสุดสลด พ่อแม่และลูกสาว นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน

ผู้ชายนอนหงายไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ผู้หญิงนอนหงายน้ำลายฟูมปาก ส่วนอีกร่างเป็นเด็กผู้หญิงนอนคว่ำหน้า เสียชีวิตอยู่บนที่นอน โดยพบเตาอั้งโล่วางอยู่กับพื้นห้อง พบจดหมายเขียนไว้ มีใจความว่า ถึงอา มีเงินประกันสังคมเสียชีวิต 50,000 บาท เอ๋มีประกัน เสียชีวิต 100,000 บาท เนยก็มีผู้พิการ เอาตรงนี้ใช้หนี้ รถยกให้ติ่งจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ต่อมาจึงนำชันสูตรที่โรงพยาบาลระยอง

จากการสอบสวน นางทองคูณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องสาว น้องเขย และ หลานสาว อายุ 12 ปี ประกอบด้วยนายสายัณห์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ทำงานขับรถ, นางกนกอร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ค้าขายอยู่ในบ้านเกิดเหตุ นางทองคูณ กล่าวต่อว่า ตนมาพบร่างช่วงเช้า เพราะจะมาช่วยน้องสาวทำกับข้าวขาย พอมาถึงเห็นบ้านปิดเงียบ เรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเรียกเจ้าของบ้านมางัดประตู เข้าไปเหม็นกลิ่นควันทั้งบ้าน เข้าไปในห้องนอนก็ถึงกับช็อกกับภาพที่เห็น เสียใจมากสงสารทั้งสามคนมากไม่น่าทำอย่างนี้เลย

นางทองคูณ กล่าวอีกว่า สำหร้บน้องสาวและน้องเขย ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั้งสองคน ต้องรับยาเป็นประจำ ส่วนหลานสาวป่วยเป็นออทิสติก สาเหตุคงเกิดจากปัญหาโรคซึมเศร้า ที่เกิดจากความเครียดเกี่ยวกับธุรกิจที่เคยทำล้มเหลวจนต้องย้ายมาอยู่ที่ระยอง นางทองคูณ กล่าวด้วยว่า ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งขณะที่อาศัยอยู่ที่ กทม. แต่ช่วยทันจึงรอดมาได้ โดยไม่คิดว่าจะก่อเหตุอีก เสียใจมากกับการสูญเสียที่เดียวถึงสามคน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า มีการเตรียมการมาอย่างดี จากการตรวจสอบพบว่ามีการปิดช่องอากาศทุกช่อง ส่วนสาเหตุของก่อเหตุต้องสอบสวนญาติเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป