กระบะเสียหลักตกน้ำ ช็อกทำเงิน 4.2 ล้านจมไปด้วย งมได้แค่ 5 แสน เจ้าของเงินไม่เชื่อ ขอสูบน้ำพิสูจน์

กระบะเสียหลักตกน้ำ ช็อกทำเงิน 4.2 ล้านจมไปด้วย งมได้แค่ 5 แสน เจ้าของเงินไม่เชื่อ ขอสูบน้ำพิสูจน์

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 กันยายน 25267 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลังลงข้างทาง ตกลงไปในสระน้ำหน้าวัดห้วยขานาง หมู่ 1 ต.หนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งคนขับเผยว่าภายในรถมีเงินสดจำนวน 4.2 ล้าน จนทำให้ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน และกู้ภัย ต้องมาช่วยกันงมหาเงินจำนวนดังกล่าวตั้งแต่เช้า จนถึงเวลา 21.00 น.

ปรากฏว่าแม้จะมีการงมหาอยู่นานก็ยังพบเงินที่อยู่ในรถไม่ครบตามจำนวน โดยมีเงินที่อยู่ในรถและกล่องกระดาษที่ลอยน้ำ รวมเป็นเงินประมาณ 500,000 บาท เท่านั้น

ด้านนางสาวสาวิตรี รวมไมตรี อายุ 42 ปี เจ้าของเงิน 4.2 ล้านบาทตัวจริง ยังคงนั่งรถเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านที่มาอาสาช่วยกันหาเงิน ก่อนตัดสินใจใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 ตัว มาสูบน้ำออกจากสระซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ลึก 3 เมตร โดยคาดว่าต้องใช้เวลาสูบน้ำกันจนถึงช่วงเช้า น้ำจึงหมดสระ

นางสาวสาวิตรี เปิดเผยว่า เงิน 4.2 ล้าน เป็นเงินที่ได้จากการขายรถพ่วง 18 ล้อ ส่วน นายธงชัย อายุ 45 ปี ที่ขับรถตกน้ำนั้นเป็นนายหน้าที่ขายรถให้ โดยหลังจากขายรถไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน นายธงชัยนัดกับเธอว่าจะนำเงินมาให้วันที่ 14 กันยายน แต่ไม่ได้ระบุเวลา จนมาทราบว่ารถประสบอุบัติเหตุ และเงินทั้งหมดก็จมน้ำไปแล้ว งมขึ้นมาได้แค่ 500,000 บาท

อย่างไรก็ตาม นางสาวสาวิตรีมีข้อสงสัยหลายอย่างในเหตุการณ์นี้ โดยรถคันที่ขับไปจมน้ำไม่ใช่รถคันที่นายธงชัยใช้เป็นประจำ ส่วนเรื่องที่เงินจมน้ำ นายธงชัยอ้างว่าตอนที่ขับรถมา รถไม่ค่อยดีเลยเปิดกระจกขับ เมื่อรถพุ่งลงน้ำจึงทำให้กล่องที่บรรจุเงินมาทั้ง 2 กล่อง จมน้ำไปด้วย

เบื้องต้นตนจึงคลางแคลงใจในเหตุการณ์นี้ ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่นายธงชัยพูดจะเป็นความจริง จากนี้ก็ต้องรอดูว่าเมื่อสูบน้ำขึ้นจากสระหมดแล้ว จะมีเงินที่เหลืออีก 3.7 ล้านบาท อยู่ในสระหรือไม่

นายภารดร ทองแพ อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 กล่าวว่า ตนลงพื้นที่หลังเกิดเหตุ พบว่ามีพระสงฆ์กับชาวบ้านกำลังช่วยกันนำคนเจ็บออกจากรถ ตอนนั้นเห็นว่าอาการไม่ค่อยดี จึงประสานนำตัวส่งโรงพยาบาล โดนหลังเจ้าของรถบอกว่ามีเงิน 4 ล้านว่าบาทตกลงไปในน้ำ ก็ได้ช่วยกันงมหา

โดยหลังจากที่เดินหากันและพบกล่องกระดาษจำนวน 2 ลัง พบว่ามีเงินอยู่ในกล่องนั้น กล่องละ 200,000 บาท ลอยน้ำอยู่ จึงประสานให้กู้ภัยและนักประดาน้ำมาช่วยกันงมรถและงมหาเงิน พบอยู่ในรถอีกประมาณ 100,000 บาท รวมถึงแบงก์พัน 7 ใบ พร้อมกระเป๋าสตางค์ และเมื่อนำรถขึ้นมาได้ ก็พบแบงก์พันอีก 4 ใบ หลังจากนี้ก็จะยังคงช่วยกันงมหาเงินการจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ

ขณะที่ตำรวจอาสาซึ่งมาช่วยงมหาเงิน เผยว่า เขามาถึงตอนเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้น ก็ยังไม่มีใครพบเงินเพิ่มเติม ต้องรอดูว่าหลังสูบน้ำออกจากสระหมดแล้วจะมีเงินอยูที่ก้นสระอีกหรือไม่

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ