
ทนายปราบโกง พาอดีตพนักงานการท่าเรือ ท้า ดีเอสไอ จับดำเนินคดี หลังสอบสวนมานานกว่า 7 ปีแต่ยังเอาผิดไม่ได้สักคนเดียว
วันที่ 13 ก.ย.67 ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกฤษฎา อินทามระ ฉายา ทนายปราบโกง พร้อมด้วยอดีตพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยกว่า 100 คน เดินทางมาท้าให้ ดีเอสไอ จับกุมและดำเนินคดีโกงเงินค่าล่วงเวลา ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับพนักงานฯ จำนวน 560 คนเป็นคดีพิเศษ
กล่าวหาโกงเงินค่าล่วงเวลาไปกว่า 3 พันล้านบาท ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง หลัง ดีเอสไอ สอบสวนคดีดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานกว่า 7 ปี ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 560 คนก็ยังไม่มีใครถูกฟ้องศาลติดคุกติดตะรางแม้แต่ตนเดียว
นายกฤษฎา กล่าวว่า วันนี้ตนจึงต้องพาลูกความอดีตพนักงานท่าเรือจำนวนกว่า 100 คน มามอบตัวสู้ข้อกล่าวหาแบบชุ่ยๆของการท่าเรือฯ และขอท้าให้ ดีเอสไอ จับกุมทั้งหมดดำเนินคดีโดยไม่ต้องมีหมายเรียกเพราะ ดีเอสไอ ใช้เวลาสอบสวนมานานกว่า 7 ปีแล้ว ประกอบกับตอนแถลงข่าวใหญ่เมื่อปี 60 ดีเอสไอ ก็ย้ำกับสื่อมวลชนแล้วว่ามีพยานหลักฐานกว่า 4 แสนแผ่น ที่สามารถเอาผิดได้ จึงทำให้คนทั้งประเทศหลงเชื่อว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง สร้างความเสียหายแก่ลูกความของตนอย่างมาก
วันนี้ตนจึงต้องพาลูกความนับร้อยคนมาท้าให้ ดีเอสไอ จับดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไปโดยเร็ว เบื้องต้น ผู้บริหาร ดีเอสไอ ประชุมกันแล้วสรุปว่า ยังไม่สามารถจับกุมและดำเนินคดีได้
นอกจากนี้ ทนายปราบโกง กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้า ดีเอสไอ ยังประวิงคดีให้ล่าช้าออกไปตนก็จะพาลูกความไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ดีเอสไอ และการท่าเรือฯ ที่ บก.ปปป. บช.ก.เพื่อให้ดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 157 ทั้งสองหน่วยงานนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน