ทลายเครือข่าย บุหรี่ไฟฟ้า และ IQOS ส่งแมสเซนเจอร์ทั่วเมืองกรุง

ทลายเครือข่าย บุหรี่ไฟฟ้า และ IQOS ส่งแมสเซนเจอร์ทั่วเมืองกรุง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  แพร่รระบาดในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และปัจจุบันมีการลักลอบจำหน่ายในหลากหลายช่องทาง   รัฐบาลจึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  

โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเร่งรัดคดียาสูบฯ และ ผู้แทน ผบ.ตร. ในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ จึงได้กำหนดมาตรการปราบปราม โดยเฉพาะในบริเวณรอบสถานศึกษา แหล่งท่องเที่ยว สถานที่สำคัญ และการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์  และมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สืบสวนจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายช่องทางออนไลน์รายใหญ่ และโกดังเก็บสินค้า เพื่อตัดวงจรการกระจายสินค้าไปยังร้านค้ารายย่อย ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม  

วันที่ 11 ก.ย.67  บก.ปคบ.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม  สว.กก.๑ บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.1 บก.ปคบ. ของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า 25,352 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า  2,000,000 บาท  

       

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ.  ได้รับแจ้งจากสายลับไม่ประสงค์ออกนามว่า คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านซอยสาธุประดิษฐ์ 19 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา  กรุงเทพมหานคร พบผู้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ IQOS จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด  พบว่า มีผู้พักอาศัยในคอนโดดังกล่าวมีพฤติกรรมทิ้งถุงขยะ (ถุงดำ) วันละ 3-6 ถุง น้ำหนักเบา ไม่มีกลิ่นเหม็น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบที่ห้องเก็บขยะ และแกะถุงขยะของห้องดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ พบ กล่องบุหรี่ไฟฟ้า (ภายในไม่มีบุหรี่ไฟฟ้า) จำนวนมาก และเจ้าของห้องมีการเรียกขนส่งเอกชน เพื่อส่งสินค้าทั่วกรุงเทพ จึงได้ขอนิติบุคคลตรวจสอบ ข้อมูลของผู้พักอาศัย ปรากฎจากใบบันทึกระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติของคอนโด พบว่า มี น.ส.พนารักษ์  (นามสมมุติ) เป็นผู้ขอใช้ แสกนใบหน้า และลายนิ้วมือ ของห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่า ห้องดังกล่าวเป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ผลการตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ไอคอส รวมจำนวน 25,352  ชิ้น รวมมูลค่ากว่า  2,000,000 บาท โดยมี ซึ่ง น.ส.พนารักษ์ (นามสมมุติ) รับว่าเป็น พนักงานแพ็คสินค้า และนำจัดส่งทางขนส่งเอกชนให้กับลูกค้าทั่วกรุงเทพมหานคร

สำหรับการกระทำของน.ส.พนารักษ์ (นามสมมุติ)  เป็นความผิดตามกฎหมาย ฐานความผิดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร  พ.ศ.2560  มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ