อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ  ประธานชมรมสันติประชาธรรมพร้อมผู้ช่วย พาผู้เสีย หาย 5 รายแต่คาดว่ามากกว่านี้โดนหลอกลวงสูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท โดยนางสาวพัชยังไม่ได้ติดคุกประกันตัวออกมาหลอกคนถือว่าเป็นบุคคลอันตรายมากเลยต้องออกมาเตือนแบบจริงจังเพราะมิจฉาชีพอยู่ใกล้ตัวเราเกินกว่าที่คิด

ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พาผู้เสียหายที่ถูกนางสาวพัช ซึ่งเคยก่อวีรกรรมแอบอ้างเป็นเลขานุการของพี่หนุ่ม กรรชัย หลอกลวงสูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท พร้อมกับพาตัวแทนผู้เสียหาย 3 ราย มาแจ้งความร้องทุกข์

โดยอี้ แทนคุณ ระบุว่า นางสาวพัชยังคงมีพฤติกรรม หลอกลวงผู้เสียหายอ้างว่า ตัวเองรู้จักกับคนใน GMM Grammy สามารถติดต่อพาไปเล่นซิทคอมได้ รวมทั้งแอบอ้างว่ารู้จักกับพี่หนุ่ม กรรชัยและรายการโหนกระแสทางช่อง 3 ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อันตราย และทำให้วงการบันเทิงกับสื่อมวลชนได้รับความเสียหาย ตอนนี้สามารถรวบรวมผู้เสียหายได้ประมาณ 5 คน รวมความเสียหายได้ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท

ซึ่งในวันนี้นอกจากจะมาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ก็จะมาติดตามสถานะทางคดีของนางสาวพัชด้วยว่า ยังอยู่ในระหว่างการประกันตัวหรือติดกำไร EM หรือไม่เพื่อให้ตำรวจนำไปดำเนินคดี พร้อมทั้งฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า หากถูกใครชักชวนให้เข้ามาร่วมงานวงการบันเทิง ควรติดต่อไปยังต้นสังกัดโดยตรงว่า มีบุคคลชื่อนี้อยู่ในสังกัดนั้นหรือไม่

โดยผู้เสียหายชายรายแรกเล่าว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นางสาวพัชได้แอด Line มาทักทายตน บอกว่าเห็นผลงานการแสดงตามละครซิทคอมต่าง ๆของตน จึงต้องการจะติดต่อไปร่วมแสดงซีรีย์ของทาง GMM Grammy พร้อมอ้างว่า ตนเองนั้นเป็นนักจิตวิทยา สนิทสนมกับคนในวงการบันเทิงเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพี่หนุ่ม กรรชัย ซึ่งลักษณะการพูดคุยของนางสาวพัชนั้นค่อนข้างจะมีจิตวิทยาและหลอกล่อให้เชื่อถือได้ง่าย

ปรากฏว่านางสาวพัชบอกกับตนว่า ตนต้องโอนเงินประกันสำหรับการร่วมงาน ซึ่งเงินที่โอนไปนั้นไม่ได้เข้าบัญชีของนางสาวพัช ด้วยความหลงเชื่อ ตนก็เลยโอนไปจำนวน 140,000 บาท แล้วหลังจากนั้นนางสาวพัชก็เงียบหายไป จนมาค้นหาข่าวภายหลังก็ทราบว่า นี่คือนางสาวพัชหรือฟ้าที่เคยแอบอ้างว่าเป็นเลขานุการของพี่หนุ่มกรรชัย โดยผู้เสียหายรายนี้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากตนจะถูกนางสาวพัดหลอกแล้ว ด้วยความที่ตนไม่รู้จะทำยังไง ก็ดันไปหลงเชื่อเพจตำรวจปลอมที่อ้างว่ารับแจ้งความร้องทุกข์และจะคืนเงินได้ ก็เสียเงินให้กับเพจตำรวจปลอมอีกแสนบาท รวมความเสียหายที่ตนเกิดขึ้นพ่วงกับนางสาวพัชรวมกว่า 240,000 บาท

ผู้เสียหายหญิงรายที่ 2 (เสื้อเขียว) ระบุว่า ตนรู้จักนางสาวพัชผ่านเพื่อนอีกทีนึง แอบอ้างว่าตนเองเป็นนักจิตวิทยาและขายอุปกรณ์การแพทย์ เคยทำงานให้กับมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมแอบอ้างในลักษณะเดียวกันว่า รู้จักกับคนใน Gmm grammy และพี่หนุ่ม กรรชัย โดยเริ่มรู้จักตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมเช่นเดียวกัน ตอนนั้นตนมีปัญหาเรื่องการเงิน นางสาวพัชจึงเสนอว่าจะให้กู้ยืมเงินให้ผ่านกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการขายอุปกรณ์ทางแพทย์ โดยบอกกับเธอว่า ต้องโอนเงินเพื่อการันตีว่าเธอมีศักยภาพเพียงพอที่จะกู้ยืมเงินได้และนางสาวพัชก็รับประกันว่าจะไม่หลอกลวง พร้อมใช้หน้าที่การงานเป็นหลักประกันว่าจะไม่ทำให้เสียหาย เธอจึงโดนหลอกให้โอนเงินไปจำนวน 16,900 บาท แล้วสุดท้ายตัวนางสาวพัชเมื่อได้เงินแล้ว ก็เงียบหายไป ซึ่งเงินดังกล่าวไม่ได้เข้าบัญชีของนางสาวพัช หนำซ้ำตนก็ยังถูกเพจตำรวจปลอมหลอกคล้ายผู้เสียหายรายแรก สูญเงินไปกว่า 17,000 บาท

ผู้เสียหายรายสุดท้าย (ผู้หญิงเสื้อแขนกุด) กล่าวว่าตัวเธอไม่ได้ถูกหลอกให้โอนเงิน แต่ทว่ากลับถูกนางสาวพัชนำบัญชีเงินของตนไปใช้เป็นบัญชีม้า โดยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม นางสาวพัชมาขอความช่วยเหลือผ่านเพื่อนอีกทีนึง อ้างเธอโดนแฟนโกงและทะเลาะกัน จึงขอมาอยู่ด้วย และเธอคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เธอจึงพานางสาวพัชไปอยู่ด้วย

ต่อมาเธออ้างว่ามีปัญหาเรื่องเงินในบัญชี จึงอยากจะรบกวนขอใช้บัญชีธนาคารของตนในการรับเงิน เธอก็ยินดีและหลังจากนั้นก็มีเงินโอนมาเรื่อย ๆ ครั้งละหลักหมื่นบาท รวมเบ็ดเสร็จจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีเงินเข้ามาประมาณ 200,000 บาท เมื่อถามนางสาวพัช เขาก็อ้างว่าเป็นเงินที่ได้จากการประมูลขายอุปกรณ์การแพทย์ พร้อมระบุอีกว่าไม่เอาหน้าที่การงานของเขามาทำให้เสียชื่อเสียงแน่นอน เธอก็ยังคงหลงเชื่อ ปรากฏว่าช่วงสิ้นเดือน เธอถูกอายัดบัญชีกับตำรวจถึง 3 ท้องที่ และมาทราบภายหลังว่า บัญชีธนาคารของเธอถูกส่งไปให้ผู้เสียหายรายแรกโอนเงินเข้ามา ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจไล่นางสาวพัชออกจากบ้านเมื่อช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน