ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 รวมถึงความผิดอาญาที่ผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลต่างด้าว หรือความผิดลักษณะแย่งอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทย

ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1

วันที่ 3 ก.ย.67 เวลาประมาณ 15.00 น. กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1นำโดย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ  รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนทางหมายเลข 1178 ที่ร้านซาลอนแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าดัง ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ

ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.ตม.1ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนว่ามีคนต่างด้าวทำงานโดยผิดกฎหมายที่ร้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำกำลังไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวฯ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบผู้ถูกจับมีลักษณะคล้ายคนต่างด้าวกำลังทำงานเสริมสวยอยู่บริเวณดังกล่าวฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับแสดงบัตรประจำตัวให้ผู้ถูกจับดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง และใบอนุญาตทำงานของผู้ถูกจับ พบเป็นหญิงสาว ชาวเมียนมาร์ ทั้งหมด อายุระหว่าง 20-35 ปี

ซึ่งในชั้นจับกุม ผู้ถูกจับไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ดูได้ จำนวน 5 คน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้

2 รายแรก ชื่อ นางสาวเอ และ นางสาว บี (นามสมมติ) ชาวเมียนมาร์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้” กล่าวคือ ประกอบอาชีพช่างทำผม ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้าม ซึ่งบุคคลต่างด้าวไม่สามารถกระทำได้

อีก 1 ราย คือนางสาวมิ้น มีใบอนุญาตทำงาน ถูกต้องแต่พบความผิดฐานไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบถึงผู้เป็นนายจ้าง สถานที่ทำงานของนายจ้าง และลักษณะงานหลักที่ทำภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงาน

ส่วน นางสาวซันดา อีก 1 รายเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

และรายสุดท้ายคือนางสาว  มินส่วย ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาคือเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จากนั้น ควบคุมตัวทั้ง 5 รายส่ง พงส.สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน