แม่ลูกซึ่งอาศัยอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 14 ช่วงบริเวณซอยศุภราช ติดต่อทีมข่าว ให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบภายในบริเวณดังกล่าว เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมามีสายเคเบิ้ลสื่อสารห้อยระโยงระยางพาดถนนไปมาในซอยหลายจุด จนชาวบ้านเห็นชินตา

ผู้เสียหายเปิดใจกับทีมข่าวว่า ช่วงเย็นวันอังคารที่ผ่านมาได้ขับรถตู้พยาบาลอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูที่ติดโปะไฟไซเรนและอุปกรณ์ไฟอื่นๆรอบรถออกมาในจุดดังกล่าว ยอมรับว่าไม่เห็นสายเคเบิลที่ห้อยต่ำลงมาไม่ถึง 2 เมตรจึงชนเกี่ยวเข้าไปอย่างจังที่กระจกหน้าก่อนที่สายเคเบิลจะดึงเอาโป๊ะไฟไซเรนที่อยู่บนหลังคาเอียงจนเกือบหลุดจากหลังคา และยังทำให้อุปกรณ์ส่องสว่างรอบคันได้รับความเสียหาย สีตัวถังมีรอยหลายจุด ประเมินความเสียหายแล้วมากกว่า 80,000 บาท จึงได้เข้าแจ้งความที่สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความและทำได้เพียงส่งสายตรวจเข้ามาช่วยเก็บสายเคเบิลแบบตามนี้ตามเกิดเท่าที่ตำรวจจะทำได้ พยายามติดต่อไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสายเคเบิลตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับการแก้ไขจนถึงปัจจุบันกระทั่งมาเกิดเหตุกับตนเอง มองว่าหากปล่อยไว้ครั้งต่อไปอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสายเคเบิ้ลเหล่านี้

ขณะที่มารดาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รถในบริษัทของตนก็เกี่ยวสายเคเบิ้ลบริเวณนี้ได้รับความเสียหายไปหลายคันแล้ว และได้แจ้งความเรียกร้องค่าเสียหาย แต่สุดท้ายก็ยังเงียบจนถึงปัจจุบัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเข้ามาแก้ไขเพราะตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสายเคเบิลที่มีอยู่มีกระแสไฟหรือไม่ บริเวณดังกล่าวก็มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้งหากสายไฟละลงมาที่พื้นก็อาจเกิดไฟรั่วจนทำให้เกิดความสูญเสียขึ้นมาได้

จากการสอบถามไปที่สนบางซื่อ ทราบว่าคดีดังกล่าวตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายรายได้พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจึงเตรียมออกหมายเรียกเจ้าของสายเคเบิลเข้ามาสอบปากคำขนาดนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นของบริษัทหรือหน่วยงานใด

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.กรุงเทพมหานคร รายงาน