นายเจือง อาศัยอยู่ที่ฉงชิ่ง ประเทศจีน มายาวนาน หลายปีที่เขาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีปัญหาใด ๆ จนกระทั่งครอบครัวข้างบ้านย้ายออกไป และมีชายคนหนึ่งย้ายเข้ามา ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน เหตุผลก็คือเพื่อนบ้านคนนี้อาศัยอยู่คนเดียว แต่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศถึง 10 เครื่อง ที่เปิดทำงานเต็มที่ตลอดทั้งวันและทั้งคืน สิ่งนี้ทำให้เกิดเสียงดังมาก และนอกจากนั้นครอบครัวของนายเจืองยังต้องทนร้อนจากคอมเพรสเซอร์อีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางคืน เมื่อเขาต้องการพักผ่อน นายเจืองไม่สามารถนอนได้เพราะเสียงดัง เขาโทรไปหาเพื่อนบ้านหลายครั้งเพื่อตักเตือนเกี่ยวกับการปรับตั้งเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมขึ้น อย่างไรก็ตาม เสียงดังนั้นบรรเทาลงเพียงไม่กี่วันแล้วทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ เมื่อไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร นายเจืองจึงเลือกที่จะโทรแจ้งตำรวจ ทันทีที่ทีมตำรวจมาถึงและฟังสิ่งที่เขาเล่า พวกเขาก็สงสัยว่าอาจมีสิ่งที่ผิดปกติเกี่ยวกับเพื่อนบ้านคนนี้

ตามที่นายเจืองเล่า ชายคนนี้ย้ายมาอยู่ที่นี่แต่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน แทบจะไม่มีใครเห็นเขาในเวลากลางวัน ส่วนใหญ่เขาจะออกจากบ้านในตอนกลางคืนและกลับมาตอนเช้า ครั้งหนึ่งครอบครัวที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ เคยบังเอิญพบชายคนนี้และถามเกี่ยวกับอาชีพและชีวิตของเขา แต่เขาไม่ตอบคำถามใด ๆ แค่ยิ้มแล้วรีบกลับบ้านอย่างรวดเร็วในลักษณะลับๆ ล่อๆ

หลังจากฟังรายงานจากครอบครัวรอบข้าง ตำรวจจึงขอให้ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติและไม่แสดงท่าที่พิรุธ จากนั้นทีมตำรวจยังจัดตั้งทีมสืบสวนพิเศษเพื่อสืบสวนคดีนี้เพื่อหาความจริง พวกเขาเฝ้าระวังหน้าบ้านของชายคนนี้ สังเกตทุกความเคลื่อนไหวของเขา ตำรวจพบว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาออกจากบ้านหรือกลับบ้าน เขามักจะถือกระเป๋าสีดำ และแม้ว่าเขาจะอยู่ในบ้านของตัวเอง เขาก็ยังคอยสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างระมัดระวัง

การทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ตำรวจค่อยๆ ได้ข้อมูลของชายคนนี้ ตามการสืบสวนเบื้องต้นของทีมตำรวจ ไม่พบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการทำงาน แต่กลับพบว่ามีการทำธุรกรรมในบัญชีธนาคารของเขาบ่อยครั้งและเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินมหาศาล

หลังจากการสืบสวนเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ตำรวจค้นพบพฤติกรรมลึกลับของชายที่อาศัยอยู่เพียงลำพังคนนี้ จากนั้นก็ได้ขอเข้าตรวจค้นที่พักของเขา ภาพที่เห็นภายในบ้านทำให้ทั้งทีมตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องตกตะลึง บ้านเต็มไปด้วยของเก่า เช่น แจกันโบราณ ภาพวาดอักษรวิจิตร และชุดน้ำชา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของกาลเวลา เหตุผลที่ชายคนนี้เปิดเครื่องปรับอากาศตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันนั้นเพื่อรักษาสภาพของโบราณวัตถุเหล่านี้

เมื่อตำรวจขอดูเอกสารการซื้อของในบ้าน ชายคนนั้นไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ หลังจากถูกนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ชายคนนั้นก็จำต้องสารภาพทุกการกระทำของเขา

ชายคนนั้นกล่าวว่าเขาถูกชักนำโดยกลุ่มคนไม่ดีและเริ่มเดินบนเส้นทางการขโมยของเก่า เพื่อปิดบังตัวตนของเขา เขาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้านขายของเก่า เพื่อให้การแลกเปลี่ยนและขายของนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ราคาสูง

ชายคนนี้กล่าวว่าบ้านในพื้นที่อยู่อาศัยที่ฉงชิ่งนั้นเขาเพียงเช่าไว้เก็บของเก่าและไม่ได้อาศัยอยู่จริง ดังนั้นผู้คนจึงแทบไม่เห็นเจ้าของเข้าบ้านออกบ้าน แต่เพื่อรักษาของเก่าเหล่านี้ เขาได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องต่าง ๆ และเปิดตลอดเวลา

ในระหว่างการสืบสวนของตำรวจ ชายคนนี้สารภาพว่าเขาได้ขโมยของเก่ามากกว่า 100 ชิ้นในปีที่ผ่านมา มูลค่าของโบราณวัตถุนั้นมากมายจนไม่สามารถประเมินค่าได้ บางชิ้นนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงทุกวัน ท้ายที่สุดชายคนนั้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจีนในข้อหาลักทรัพย์และค้าของเก่าโดยผิดกฎหมาย ของเก่าทั้งหมดในบ้านถูกยึดและส่งคืนให้พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น