วอนจับ ไอ้กร ทำร้ายแฟน เผาบ้านญาติ ขู่ฆ่า มี 2 หมายจับ ยังใช้ชีวิตลอยนวล อ้างรู้จักตำรวจนครนายก

วอนจับ ไอ้กร ทำร้ายแฟน เผาบ้านญาติ ขู่ฆ่า มี 2 หมายจับ ยังใช้ชีวิตลอยนวล อ้างรู้จักตำรวจนครนายก

วันนี้ 4 กันยายน  2567 ผู้เสียหายวอน ขอให้ช่วยจับ“ไอ้กร”ที่ไปก่อเหตุ ทำร้ายแฟนสาว เอารถจักรยานยนต์ของแฟนสาวไปทิ้งแม่น้ำ เผาบ้านญาติแฟนสาวจนวอดเกือบทั้งหลัง แถมข่มขู่ว่าจะยิงทิ้งให้หมดบ้าน หลังแจ้งความคดีไม่คืบ ตอนนี้ต้องอยู่กันอย่าหวาดผวา เพราะไอ้กรยังใช้ชีวิตอย่างลอยนวล  ทั้งที่ยังมีหมายจับคดีขมขื่นและคดีชิงทรัพย์ ค้างเก่า อีก 2 หมาย เชื่อว่าไอ้กรมีแบล็คดีจริง ๆ ถึงลอยนวลได้อยู่ทุกวันนี้

นายโชคชัย รักษาพล อายุ34ปี ผู้เสียหาย (เจ้าของบ้าน) กับนางสาวสุภาพร อายุ 22 ปี อดีตแฟนนายกร พร้อมกับแอดมินเพจเรื่องจริงนครนายก เดินทางมาจากนครนายก  มาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด วอนขอให้ช่วยตามจับกุม“ ไอ้กร” เพราะตอนนี้ตนเองและญาติๆต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง เนื่องจากไอ้กรขู่จะฆ่ายกครัวไว้  เท่าที่ทราบมา ไอ้กรพกปืนอยู่ตลอดเวลา  และยังใช้ชีวิตอยู่อย่างลอยนวล

นางสาวสุภาพร เล่าให้ฟังว่า ตนมีลูกติด 1 คน อายุ 5 ขวบ เมื่อประมาณ กุมภาพันธ์ 2567 ตนกับนายกรได้เริ่มคบกันเป็นแฟน โดนนายกรได้มาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านพี่เขย และช่วงหลังตนได้จนไปอาศัยอยู่บ้านแม่นายกร พอตนไปอยู่บ้านนายกรก็ถูกทำร้ายอยู่ประจำ  ตนเริ่มทนพฤติกรรมไม่ไหว วันที่ 16 กรกฏาคม 2567 จึงหนีกลับมาอยู่บ้าน และได้ขอเลิกกับนายกร แต่ไอ้กรไม่ยอม ยังตามราวีไม่หยุด บุกมางัดบ้านเข้ามาทำลายข้าวของที่บ้าน พี่เขยตนจึงไปแจ้งความ แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ ลงแค่บันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน  จากนั้นนายกรได้ขมขู่เรื่อยมา หากไม่มาพบที่บ้านจะตามทำร้าย และนายกรมีการไปที่โรงเรียนของลูกชายตนวัย 5 ขวบ ขู่ว่า“จะอุ้มลูกตนไปทำร้าย” ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัว

จนกระทั่ง วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ตนได้นัดเคลียร์กับนายกร ที่ตลาดสวนหลวง หลังนายกรเจอตนเอง ได้จอดรถขอเขาทิ้งไว้ที่ตลาด แล้วขึ้นมาขี่รถจักรยานยนต์ของตน พาตนไปที่บ้านเขาที่ซอยเทพประทาน จังหวัดนครนายก และได้ยืดโทรศัพท์กับกุญแจรถตนไว้ ไม่ให้ตนกลับบ้าน  ต่อมาพี่สาวกับพี่เขยตนเห็นตนหายไป 3 วัน จึงออกไปตามหาตนที่บ้านนายกร ตนจึงกลับมากับพี่สาว (โดยช่วงที่ไปพี่สาวไปรับนายกรไม่อยู่บ้าน)  หลังตนหนีกลับบ้านมาได้ทำให้นายกรโกรธมาก ออกไปตามหาตนแต่ไม่เจอ วันที่24 สิงหาคม 2567 นายกรจึงทุบโทรศัพท์ตนและทุบรถจักรยานของตน และนำรถไปทิ้งแม่น้ำ ตนจึงไปแจ้งความเอาไว้ที่สภ.ดงละคร  จากนั้นวันที่ 28 สิงหาคม 2567 นายกรได้บุกมาที่บ้าน มาโวยวาย ตนจึงไปแจ้งความเอาไว้ที่สภ.ดงละคร  จนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 นายกรได้แอบเข้ามาเผาบ้านพี่เขยตน แล้วส่งข้อว่า“มึงเห็นสภาพที่บ้านมึงก็ตามนั้นไหม” แล้วก็โทรศัพท์มาบอกว่า “มึงรวยสร้างบ้านใหม่เอานะ“

นายโชคชัย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่31สิงหาคม 2567 ตนเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพ ส่วนแฟนตนเองกับนพอ้องสาวแฟนก็ไม่อยู่บ้าน ขี่รถไปรับหลาน จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ผู้ใหญ่บ้านโทรศัพท์มาบอกว่า บ้านตนไฟไหม้  ตนจึงรีบโทรบอกภรรยาให้รีบโทรแจ้งรถดับเพลิง หลังเพลิงสงบ ทรัพย์สมบัติในบ้านตนได้ถูกไฟไหม้หมด แม้กระทั่งเสื้อผ้าตัวเดียวยังไม่เหลือ  ตอนนี้พวกตนต้องกางเต้นนอนกัน 4 ชีวิต ใช้ชีวิตลำบากมาก ต้องอยู่อย่างหวาดกลัว เพราะนายกรขู่ฆ่ายกครัวไว้  หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุยังท้าทาย ไม่รู้สึกผิด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตนจึงขอความช่วยเหลือไปยังเพจเรื่องจริงนครนายก ทางเพจจึงเช็คประวัติคนก่อเหตุ พบว่ามีหมายจับค้างเก่า 2 หมาย คดีขมขื่นกับคดีชิงทรัพย์  ตนรู้สึกแปลกใจว่า ผู้ก่อเหตุก่อเหตุขนาดนี้ทำไมยังลอยนวลได้อีก  พอตนไปถามตำรวจสภ.ดงละคร เรื่องคดี ตำรวจได้บอกว่าไม่มีหลักฐานอย่าไปปรักปรำเขา พอถามเรื่องหมายจับค้างเก่า ทำไมไม่จับ ตำรวจบอกว่า ก่อเหตุที่อื่นจับไม่ได้

นายเอกภพ กล่าวว่า คนร้ายก่อเหตุอุกอาจขนาดนี้ชาวนครนายกจะอยู่กันอย่างไร อยากฝากตำรวจสภ.ดงละครด้วยครับ ว่า ถ้าผู้ต้องหามีหมายจับ  ตำรวจท้องที่ไหนก็จับได้ครับ  ไม่จำเป็นต้องตำรวจในพื้นที่เท่านั้นของหมายเท่านั้น  ตอนนี้ตนประสานไปยังพล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยตามจับตัวมาดำเนินคดีโดยด่วน โดยท่านรับปากแล้วว่าจะสั่งการให้จับกุมให้ได้โดยไว้ที่สุด  

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ