ต้องระวัง ผัวเมีย! ดื่มน้ำต้มสมุนไพรกับกาแฟ ก่อนจะชักเกร็งล้มหมดสติ เมียดับสลด ส่วนผัวยังโคม่า

ต้องระวัง ผัวเมีย! ดื่มน้ำต้มสมุนไพรกับกาแฟ ก่อนจะชักเกร็งล้มหมดสติ เมียดับสลด ส่วนผัวยังโคม่า

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านเกษมสุข ตำบลตาเกษ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้านเสียชีวิตปริศนา ด้วยสาเหตุจากการกินรากไม้สมุนไพร หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

ที่เกิดเหตุอยู่ที่ บ้านเลขที่ 5 หมู่ 7 บ้านเกษมสุข ตำบลตาเกษ อำเภออุทมพรพิสัย  จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้ ทางครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต กำลังเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมการสวดอภิธรรมศพ ให้กับผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางนารี ไชยศิรินทร์ อายุ 48 ปี โดยสาเหตุของการเสียชีวิต นั้น ทางแพทย์อยู่ระหว่างนำผลเลือดส่งตรวจที่กรุงเทพมหานคร

จากการสอบถาม นายวรวิทย์ ไชยศิรินทร์ อายุ 21 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ในช่วงเช้า พ่อ แม่ และตน ได้ดื่มกาแฟตามปกติ  ซึ่งน้ำที่ใช้ในการชงกาแฟของพวกตน จะมีการนำไม้สมุนไพร ที่มีชื่อว่าแก่นฟ้าน ที่ซื้อได้ตามตลาดนัดภายในหมู่บ้าน โดยจะขายในราคา 3 กำ 50 บาท  หลังจากต้มน้ำที่ผสมกับไม้แก่นฟ้านจนน้ำเดือดได้ที่ ก็จะนำมาผสมกับกาแฟซอง ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งพวกตนก็ดื่มกาแฟที่ต้มผสมไม้แก่นฟ้านแบบนี้ มานานหลายปี แต่ก็ไม่มีอาการอะไร

จนกระทั่ง หลังจากดื่มกาแฟไปสักประมาณ 1 ชั่วโมง ปรากฏว่า พ่อของตนก็ได้เกิดล้มชักเกร็งภายในห้องน้ำ ซึ่งในตอนเกิดเหตุนั้น ตนกำลังทำกับข้าวอยู่ หลังตนได้ยินเสียงพ่อร้อง จึงรีบเข้าไปช่วย และตะโกนร้องเรียกแม่และเพื่อนบ้านให้เข้ามาช่วยกันนำพ่อออกมาจากห้องน้ำออกมานอนที่เตียง หลังจากนั้น อาการพ่อของตนเริ่มดีขึ้น อาการชักเกร็งเริ่มหายไป

แต่ปรากฏสักพักหนึ่ง แม่ของตนก็ได้ล้มหมดสติลงไปต่อหน้าต่อตา ตนพยายามตะโกนเรียกแม่ ทั้งบีบและนวดเพื่อให้แม่มีสติและอาการดีขึ้น แต่แม่ของตนกลับไม่มีอาการตอบสนองแต่อย่างใด ซึ่งขณะนั้น เพื่อนบ้านได้โทรเรียกรถพยาบาลเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ จนสุดท้ายก็นำพ่อและแม่ของตนส่งโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย เพื่อทำการรักษา แต่ปรากฏว่า แม่ของตนได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อของตน นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างทำการรักษาภายในห้องไอซียูโรงพยาบาลศรีสะเกษ  

ซึ่งโดยในเบื้องต้น ทางแพทย์ได้แจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของแม่ตน ว่า ในเลือดของแม่ตนมีสารชนิดหนึ่งอยู่จำนวนมาก ซึ่งยังไม่ระบุแน่ชัดว่าสารชนิดนั้นคืออะไร ส่วนพ่อของตนนั้น ภายในเลือดก็มีสารชนิดนี้อยู่เช่นกัน แต่มีอยู่ในเลือดไม่มากเท่ากับของแม่ จึงทำให้ยังไม่เสียชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาแม่ของตนสุขภาพแข็งมาตลอด ไม่มีโรคประจำตัว และในวันที่เกิดเหตุนั้น ตนก็ดื่มกาแฟนั้น เช่นกัน แต่กลับไม่มีอาการแต่อย่างใด

นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า บ้านของตนนั้น อาศัยกันอยู่ จำนวน 6 คน ประกอบด้วย พ่อ แม่ ตา ยาย ตน และน้องสาวอีก 1 คน เมื่อปีที่ผ่านมาพ่อของตนได้เกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เป็นอัมพาตครึ่งซีก ไม่สามารถทำงานได้ ส่วนตาและยาย ก็เป็นโรคอัมไซเมอร์และโรคต่างๆ รุมเร้ามากมาย ทำให้แม่ของตนต้องเป็นเสาหลักในการทำงานเพื่อดูแลครอบครัว โดยแม่ทำงานเป็นช่างตัดชุดอยู่ในอำเภออุทุมพรพิสัย รายได้ประมาณวันละ 400 บาท ส่วนตนนั้นประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย ซึ่งมีรายได้อยู่ประมาณ 300 บาท ซึ่งจากการสูญเสียแม่ไป ทำให้ตอนนี้เสาหลักในการดูแลบ้าน คือตน ซึ่งตนจะต้องทำเรื่องนี้ให้ได้

ผู้สื่อข่าวสอบถาม นางม้วน มณีวรรณ อายุ 83 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่ดื่มไม้แก่นฟ้านอยู่เป็นประจำ ได้เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนได้ดื่มน้ำต้มที่ผสมแก่นฟ้านอยู่ ซึ่งก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนที่กินน้ำต้มที่ผสมแก่นฟ้านนี้เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีอะไร ซึ่งสรรพคุณของแก่นฟ้าน กินแล้วจะทำให้เลือดลมไหลดี อาการฟกช้ำหรืออาการเคล็ดขัดยอกต่างๆก็ดีขึ้น ซึ่งจากที่ตนดื่มมาแต่ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด

เบื้องต้น กาน้ำที่ใช้ในการต้มน้ำที่ผสมไม้แก่นฟ้าน นั้น ตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อุทุมพรพิสัย ได้นำไปตรวจสอบแล้ว ส่วนตอนนี้ทางโรงพยาบาลก็ได้นำผลเลือดของนางนารี ผู้เสียชีวิต เพื่อทำการตรวจสารในเลือดให้แน่ชัดว่าเป็นสารชนิดใดต่อไป

ข่าวจังหวัดศรีสะเกษ ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ