กัน จอมพลัง พาแม่และเด็ก 6 ขวบเข้าแจ้งความ หลังถูกครูชาวฟิลิปปินส์ ตบบ้องหูสาหัส ด้านเด็กผวาไม่กล้าไปโรงเรียน
วันที่ 2 กันนายน ที่สน.พญาไท นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ 'กัน จอมพลัง' พาเเม่และลูกวัย 6 ขวบ เข้าเเจ้งความกับ พ.ต.ท. วิศรุช หยกนิธิภัทร สว.(สอบสวน) สน.พญาไท หลังถูกครูชาวฟิลิปปินส์ใช้มือตบบ้องหูลูก จนอักเสบ และเลือดออก พอถามไปทางโรงเรียนกลับไม่มีการช่วยเหลือใดๆ อีกทั้งคุณครูยังบอกว่า ขอจ่าย เพื่อขอให้เรื่องจบ
นางเอ (นามสมุติ) อายุ 50 ปี ผู้เป็นเเม่ เปิดเผยว่า ครอบครัวย้ายมาจากทำงานจ.สระบุรี มาที่กรุงเทพได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งทางตนได้ให้ลูกได้เข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่สน. พญาไท จนเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษกับครูชาวฟิลิปปินส์คนดังกล่าว ซึ่งลูกก็ไม่ค่อยเข้าใจที่ครูพูดและได้มีการทำข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งลูกตนได้มีการดิ่งช้อยข้อ C ซึ่งทำให้ครูคนดังกล่าวไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้ตบที่บ้องหูซ้ายลูกของตนไปหนึ่งที หลังจากนั้นตอนเย็น หลังจากกลับมาจากโรงเรียนลูกได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นและปวดหูมากๆ ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้หนักหนามากตนขึ้นจึงได้ให้ลูกไปเรียนดังเดิม
แต่เช้าวันต่อมาลูกของตนไม่ยอมไปโรงเรียน มีอาการหวาดกลัวอย่างรุนแรงและไม่อยากไปโรวเรียน ตนจึงได้มีการติดต่อไปที่ครูคนดังกล่าว ซึ่งทางครูได้มีการเสนอเงิน 5,000 บาทแลกกับการจบเรื่อง แต่ตนก็ไม่ยอม อีกฝ่ายจึงเสนอเป็น 10,000 บาท แต่ก็ยังไม่เอา เพราะว่าสิ่งที่ครูคนดังกล่าวได้ทำไปต้องรับการรับรับผิดชอบ
โดยหมอวินิจฉัยว่าหูชั้นนอกของลูกอักเสบเฉียบพลัน ปัจจุบันลูกเหมือนมีอาการหูอื้อ หูแว่วและปวดตลอดเวลา ตอนนี้ก็กินยาและหยอดยาตามที่หมอได้จัดมาให้
นางเอ (นามสมุติ) กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่าลูกไม่เคยมีปัญหากับอาจารย์คนนี้เลย ซึ่งได้มีการติดตามทางโรงเรียนที่ลูกเรียนแล้ว ได้ความว่าครูคนนี้ยังได้มีการสอนอยู่ปกติ ทางโรงเรียนบอกว่ารอให้ครูหมดสัญญาในเทอมนี้เสียก่อนถึงจะยกเลิกสัญญาได้
โดยส่วนตัวคาดว่าอาจจะมีเด็กคนอื่น ที่ถูกครูรายนี้ทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกันเนื่องจากตนเคยสอบถามเด็กคนอื่นพบว่าโดนเช่นกัน
ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดหากเรื่องเงียบคาดว่าจะเกิดเรื่องดังกล่าวกับเด็กคนอื่นอีก
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า เบื้องต้นวันนี้ได้มีการประสานประสานทาง พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.พญาไท ให้ประสานในการรับเรื่องดังกล่าว โดย ทางเด็กผู้เสียหายนั้นจะมีการสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพเร็วสุดในวันที่ 3 กันยายน นี้
ทั้งนี้ตนอยากถามว่าครูชาวฟิลิปปินส์ดังกล่าวเคารพกฎหมายไทยหรือไม่ หากทำเช่นนี้ไปคิดว่าเด็กจะเรียนดีขึ้นจริงหรือ และอยากให้เป็นเคสตัวอย่างให้กับครูหลายหลายคน
พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการทำหนังสือถึงทาง ต้นสังกัดของก่อเหตุโดยจะเรียกตัวมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ข้อเท็จจริงและต้องรอการพิสูจน์ผลจากทางแพทย์ว่าผู้เสียหายได้รับความบาดเจ็บสาหัสเพียงใด แล้วจะมีการทำหนังสือไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตในการทำงานต่อไป
ทั้งนี้ตนขอให้ครอบครัว ผู้เสียหายมั่นใจได้ว่าทางสน.พญาไท จะเหมือนกันให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน