เคราะห์ซ้ำกรรมซัด! สาวถูกอดีตแฟนหนุ่มสาดน้ำกรด หลังรักษาตัว หวังจะกลับไปทำงาน แต่นายจ้างอ้าง ตำแหน่งไม่ว่าง ส่วนคนร้ายยังลอยนวล
จากกรณีวันที่ 14 เม.ย.67 นายกร (นามสมมุติ) พี่ชาย ได้เข้ามาร้องเรียนกับ มูลนิธิปวีณาฯ หลังจากที่ น.ส.น้ำฝน น้องสาว อายุ 38 ปี ถูก นายเบิร์ด อดีตแฟนหนุ่มผีพนันราดน้ำกรดใส่ ตั้งแต่ศีรษะลงมาเกือบทั่วตัวเป็นแผลลึกระดับ 3 อาการสาหัสอยู่ห้องปลอดเชื้อในรพ. หลังฝ่ายชายพยายามง้อขอคืนดีแต่ไม่สำเร็จ แอบขึ้นมาหลบซ่อนตัวในรถก่อนลงมือก่อเหตุ ตอนนี้คนร้ายยังลอยนวล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 67 ท้องที่สภ.บางปะอิน
น้องสาวเหมือนตกนรกทั้งเป็น หวั่นอดีตแฟนจะย้อนมาทำร้ายซ้ำอีก ขอช่วยติดตามคดี โดย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย. ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เร่งติดตามตัวนายเบิร์ดมาดำเนินคดีโดยเร็ว และจะช่วยเหลือน.ส.น้ำฝน หากอาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลแล้วจะประสานโรงพยาบาลยันฮีรักษารอยแผลเป็นที่ถูกสาดน้ำกรด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับนายเบิร์ด ในข้อหา ทำร้ายร่างกายจนได้ รับบาดเจ็บสาหัสถึงแก่ทุพพลภาพ อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ส.ค.67 ที่มูลนิธิปวีณาฯ นายกร (นามสมมุติ) พี่ชาย ได้พาน.ส.น้ำฝน น้องสาว อายุ 38 ปี ที่สภาพใบหน้าและตามลำตัวเป็นแผลเป็นจากการถูกอดีตแฟนสาดน้ำกรด เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ หลังรักษาตัว 3 เดือนเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ขอความเป็นธรรม เนื่องจากเคราะห์ร้ายต้องอยู่ในสภาพตายทั้งเป็นแล้วขณะนี้ ยังต้องมาตกงานอีก ชีวิตมืดมนหนทาง ส่วนคดีตำรวจออกหมายจับแล้วแต่นายเบิร์ด ผู้ก่อเหตุหลบหนี ต้องอยู่ไม่เป็นสุข เพราะหวาดระแวงกลัวอดีตแฟนจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก
น.ส.น้ำฝน กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุตนเองต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน รักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 3 เดือน เมื่อจะกลับไปทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง แต่นายจ้างกลับบอกว่า ตำแหน่งไม่ว่าง ไม่ต้องมาทำงานแล้ว ไม่รู้เวรกรรมอะไรทำให้ยิ่งช้ำใจซ้ำไปอีกคิดว่าคนอื่นคงจะรังเกียจตนในสภาพแบบนี้ ขณะที่รอยแผลเป็นตามตัวยังเป็นพังผืด บางจุดยึดรั้งทำให้เคลื่อนไหวลำบากและเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา วันนี้ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อยังไงไหวจึงมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ส่งตัวไปรักษาและหางานให้ทำ
น.ส.น้ำฝน กล่าวอีกว่า สำหรับนายเบิร์ด อดีตแฟนที่ก่อเหตุ นิสัยติดการพนัน และเคยถูดดำเนินคดีลักทรัพย์ ฉ้อโกง เพราะมีพฤติกรรมไปหลอกยืมของวัดจำพวกหม้อ กระทะ เครื่องใช้ในครัวแล้วไม่นำไปคืนมูลค่าความเสียหายราว 3 หมื่น โดยก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 4 วัด นอกจากนี้แม่และยายของนายเบิร์ดยังมีพฤติกรรมลวงโลกสร้างเรื่องชีวิตรันทดเปิดบัญชีรับบริจาคจนมีชาวบ้านที่รู้เรื่องจริงแจ้งตำรวจจับกุมมาแล้ว ซึ่งล่าสุดนายเบิร์ดถูกดำเนินคดีในพื้นที่จ.นนทบุรี
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องจากพี่ชายเมื่อวันที่ 14 เม.ย.67 ได้ติดตามคดีสอบถามความคืบหน้าและประสานกับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย. ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับทันที ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนีอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อย่างไรก็ตาม นางปวีณา จะเดินทางไปพบ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย. ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าในวันอังคารที่ 3 ก.ย.นี้ ที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับพานักเรียนนายร้อยตำรวจ 30 นายเดินทางไปดูงานด้วย ซึ่งในวันนี้นักเรียนนายร้อยตำรวจทั้ง 30 นายที่มาดูงานมูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้ร่วมรับฟังขณะที่น.ส.ฝน มาร้องทุกข์ด้วย
และในวันเสาร์ที่ 31 ส.ค.นี้ นางปวีณาจะพาน.ส.น้ำฝน ไปพบ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลยันฮี เพื่อช่วยเหลือในการรักษาบาดแผลที่เป็นแผลเป็นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และในส่วนของโรงานที่น.ส.น้ำฝนทำงานอยู่นั้น หากเป็นไปได้อยากจะขอความเมตตาจากนายจ้างให้ช่วยรับน.ส.น้ำฝนกลับเข้าทำงานเพื่อให้น.ส.น้ำฝน มีรายได้เลี้ยงตัวเอง หรือหากหน่วยงานใดอยากจะช่วยเหลือสรับน.ส.น้ำฝน เข้าทำงาน ซึ่งน.ส.น้ำฝนมีคุณสมบัติเรียนจบปริญญาตรี สาขาการจัดการ และเคยผ่านการทำงานในฝ่ายบุคคล ขอให้ติดต่อมาได้ที่มูลนิธิปวีณาฯโทร. 1134, 098 478 8991, 081 890 1355
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน