โซเชียลแห่เเชร์คลิปขับรถปาดหน้า ที่แท้เป็นมิจฉาชีพต่างด้าว ทำมาแล้วหลายครั้ง
จากกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปจากผู้ใช้ติ๊กต๊อกรายหนึ่ง เป็นคลิปขับรถปาดหน้าแล้วพยายามเบรคให้รถที่ถูกปาดหน้าชน ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายที่เข้ามาดูคลิปแล้วเห็นผู้ชายในคลิปจำได้ว่าเคยถูกกระทำลักษณะแบบนี้มาแล้ว ต้องเสียเงินให้กับผู้ชายคนนี้ไปหลังจากไปชนท้ายรถของเขา
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายเล้งและน.ส.ดา สองสามีภรรรยา เจ้าของคลิปดังกล่าว สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร โดยนายเล้งและน.ส.ดา เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนไปงานอีเว้นท์ออกบูทที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากจัดบูทเสร็จก็ชวนกันไปเที่ยวแถวไทรโยคระหว่างขับรถจะไปไทรโยค ซึ่งถนนจะเป็นสองเลน ขณะขับรถอยู่นั้นก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับปาดหน้ารถของตนแล้วก็เบรครถแบบกระทันหัน เพื่อต้องการให้ชนท้ายรถของเขา ก่อนขับหลบหนีไป จากนั้นตนก็ขับรถตามไปเพื่อจะสอบถามว่าทำไมขับรถแบบนี้ ซึ่งระหว่างที่ขับรถตามไปเขาก็พยายามขับปาดหน้าแล้วก็เบรคตลอดทาง จนทำให้ตนโมโห เมื่อมีจังหวะตนก็พยายามขับแซงแล้วบอกให้เขาหยุดรถ แต่เขาไม่ยอมหยุดพยายามเร่งเครื่องยนต์หนี ตนจึงให้แฟนถ่ายคลิปไว้เพราะในใจคิดว่าน่าจะเป็นพวกแก๊งค้ายาเสพติด เพราะสังเกตเห็นทรงเขาได้
จนกระทั่งตามมาทันกันที่แยกไฟแดง ตนจึงลงไปเคาะประตูบอกให้เขาลงจากรถ แต่เขาไม่ยอมลงมา จนเวลาผ่านไปนานหลายนาทีเขาก็ยอมลงมาจากรถบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเบรครถอ้างว่าตอนนั้นใช้โทรศัพท์อยู่ ชายคนดังกล่าวเอ่ยปากขอโทษและพยายามจะเข้ามากอดคอ ตนจึงปัดมือเขาออกเพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ด้วยความโมโหจึงตบหน้าเขาไปหนึ่งครั้ง เขาก็วิ่งไปหาให้คนช่วยบอกว่าตนไล่ทำร้าย ตนได้ยินเสียงเขาเหมือนเป็นคนต่างด้าวเพราะพูดไม่ชัดสำเนียงคล้ายชาวพม่า หลังจากนั้นแฟนได้โทรแจ้งตำรวจ พอตำรวจมาจึงไปที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี จากการสอบถามทราบชื่อคู่กรณีคือ Mr.Manuth KEO อายุ 25 ปี เป็นชาวเมียนมา ทางตำรวจจึงได้เปรียบเทียบปรับตาม พรบ.จราจร ก่อนปล่อยตัวไป
นายเล้ง กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในติ๊กต๊อก มีคนติดต่อเข้ามาหลายราย บอกว่าเขาจำได้ผู้ชายคนนี้เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับเขาแล้วเรียกเงินค่าเสียหาย เขาจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงกับคนแก่ วันนั้นตนขับรถรุ่นเก่าไปเขาคงคิดว่าเป็นคนแก่เลยเลือกลงมือ ล่าสุดมีผู้ชายติดต่อเข้ามาข่มขู่ให้ตนลบภาพ ตนได้นำเบอร์โทรที่ติดต่อเข้ามาไปให้ผู้เสียหายดู ปรากฎว่าเป็นเบอร์ของชายคนดังกล่าว ซึ่งตรงกับเบอร์พร้อมเพย์ที่ผู้เสียหายโอนเงินให้เขา โดยผู้เสียหายรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวจะตะเวนก่อเหตุในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี , นครปฐม และเพชรบุรี เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนรู้สึกแปลกใจมาก ว่าทำไมตำรวจไม่จัดการให้เด็ดขาด ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นคนต่างด้าวแล้วมาก่อเหตุแบบนี้กับคนไทยหลายครั้งแล้ว ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน