รวบหนุ่มบัญชีม้ารับโอนเงินแก๊งลวงทำภารกิจ รวมมูลค่าเสียหายกว่า 5 แสนบาท

รวบหนุ่มบัญชีม้ารับโอนเงินแก๊งลวงทำภารกิจ รวมมูลค่าเสียหายกว่า 5 แสนบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5บก.ป., พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ,พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ,พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิติภูมิ ศรีแผ้ว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม

ร่วมกันจับกุม นายเกริกฤทธิ์ ฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.967/2567 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สถานที่จับกุม  ริมถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ม.3 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ตรวจสอบยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับอื่นๆ อีก 2 หมาย ได้แก่ 1.หมายจับศาลจังหวัดน่าน ที่ จ.329/2566 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2566ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

2.หมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.129/2567 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2567ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุน ช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวก ในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด ฐานฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนหรือปกปิดความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ว่า ปี 2565 ได้มีเพจ เฟซบุ๊กหนึ่งประกาศรับสมัครงาน และได้มีผู้เสียหายสนใจสมัคร เป็นพนักงานกดรับสินค้า และตอบแชทลูกค้า ผู้เสียหายตกลงตัดสินใจสมัคร หลังจากนั้นได้เริ่มงานด้วยการคอนเฟิร์มสินค้า โดยแต่ละภารกิจจะมีค่าคอมมิชชั่นให้ ช่วงแรกจะทำการถอนเงินได้ เมื่อผู้เสียหายตายใจจึงให้มีการสำรองเงินมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ  พร้อมทั้งผลการตอบแทนที่สูงขึ้น ผู้เสียหายจึงลงทุนสูงขึ้น ก่อนจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ซึ่งการโอนเงินเพื่อลงทุนดังกล่าวนั้น เป็นการโอนเงินเข้าบัญชีนายเกริกฤทธิ์ฯ ผู้ต้องหา สำหรับผู้เสียหายรายนี้ มูลค่าความเสียหายกว่า 3 แสนบาท พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ไว้ ทั้งนี้ตรวจสอบเบื้องต้นจากกรณีดังกล่าว พบมีผู้เสียหายจำนวน 3 ราย มูลค่าความเสียหลายประมาณ 5 แสนบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ทราบว่า นายเกริกฤทธิ์ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณริมถนนในพื้นที่ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบพบนายเกริกฤทธิ์ ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและได้แสดงหมายจับให้ตรวจสอบ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับดังกล่าว และแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาตามข้างต้นให้ทราบ จากนั้นจึงควบคุมตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำตัวส่ง สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การ ปฏิเสธ แต่รับว่า เมื่อต้นปี 2563 นายเกริกฤทธิ์ฯ ได้เห็นประกาศจ้างเปิดบัญชีธนาคารผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยจะมีค่าตอบแทนให้ ผู้ต้องหาจึงได้ทักไปสอบถามรายละเอียด และตกลงที่จะดำเนินการเปิดบัญชีดังกล่าวโดยได้รับค่าตอบแทนในการเปิดบัญชีเป็นเงินจำนวน 300 บาท

ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.กิติภูมิ ศรีแผ้ว สว.กก.5 บก.ป. โทร.086-8215061

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ