เปลี่ยนสัญชาติหนีก็ไม่รอด ตม. ตามรวบหนุ่มออสซี่หัวใส หลังลอบขนโทรศัพท์เข้าไทย
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมโดยให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมโดยเฉพาะความผิดอาญาที่ผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลต่างด้าว
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณปลายปี 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำด่านศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เรียกตรวจสอบกระเป๋าเดินทางของนาย Bradshaw สัญชาติออสเตรเลีย ขณะเข็นกระเป๋าผ่านช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง พบโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ APPLE รุ่น iphone จำนวนมากกว่า 20 เครื่อง โดยอ้างว่ามีความประสงค์ที่จะนำไปขายต่อเพื่อหวังกำไร จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวส่ง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดี อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล Mr.Bradshaw ได้เดินทางออกจากประเทศไป และถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา
จนกระทั่งวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 สืบสวน และประสานความร่วมมือระหว่างประเทศจนทราบว่า Mr.Bradshaw ได้เปลี่ยนสัญชาติเป็นแคนาดา และมาปรากฏตัวอีกครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ศิริ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.กาจภน ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวนฯ ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีบุคคลต่างด้าว ที่เป็นบุคคลตามหมายจับ มาพักอาศัยที่ย่านสีลม เขตบางรัก กทม.เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบกระจายกำลังโดยรอบ
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูลจากสายลับว่าบุคคลตามหมายจับพักอยู่ที่ โรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านสีลม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวตำหนิรูปพรรณสอดคล้องกับบุคคลตามหมายจับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับแสดงบัตรประจำตัวให้ผู้ถูกจับดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับ จึงทราบว่าบุคคลต่างด้าวคนดังกล่าวชื่อ MR.Bradshaw อายุ 39 ปี สัญชาติ CANADA ได้รับการผ่อนผันการตรวจลงตรา เพื่อการท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ถูกจับตรวจสอบ ชื่อ วันเดือนปีเกิด และภาพถ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับดูรับว่า ตนเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ และยังไม่เคยถูกจับในคดีเดียวกันนี้มาก่อนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับ ในขั้นตอนแรกของการจับกุมให้ทราบแล้วและผู้ถูกจับได้ติดต่อญาติ หรือบุคคลที่ไว้วางใจเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการจับกุมในโอกาสแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ถูกจับส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ใคร่ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส โดยขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1178
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน