ครอบครัวเด็กวัย 14 ร้องไห้ วอนขอความเป็นธรรม หลังถูกยิงเสียชีวิต แต่คนร้ายลอยนวล ไม่ถูกดำเนินคดี

ครอบครัวเด็กวัย 14 ร้องไห้ วอนขอความเป็นธรรม หลังถูกยิงเสียชีวิต แต่คนร้ายลอยนวล ไม่ถูกดำเนินคดี

วันนี้ (23 ส.ค. 2567) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ พาครอบครัวเด็กชายวัย 14 ปี มาร้องขอให้ตำรวจกองปราบปราม เร่งตามล่าตัวมือปืนที่ยิงลูกชายเสียชีวิต ซ้ำยังเป็นการยิงผิดตัว ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังได้รับการประกันตัว ก็ได้หลบหนีไป ไม่มาฟังคำพิพากษา แต่ยังอยู่ในพื้นที่ ญาติเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และครอบครัว จึงมาร้องขอให้เร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี

ด้าน นางวัณวิสา รายสวัสดิ อายุ 41 ป้าผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา คือ หลานชาย วัย 14 ปี ของตนได้ไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนและพี่ชายตามประสาเด็ก เขาได้สัญญากับแม่ว่าจะเข้าบ้านไม่เกิน 22.00 น. แม่เขาก็ได้โทรเช็กตลอด เขาก็บอกว่ากำลังเดินทางกลับ พอประมาณเวลา 01.00 น. แม่จึงได้ทราบข่าวว่า ลูกชายเขาโดนยิงเสียชีวิต และพี่ชายที่ไปด้วยก็โดนยิงบาดเจ็บสาหัส

ซึ่งคนในครอบครัวทุกวันนี้ยังทำใจไม่ได้ เวลาเห็นสิ่งของที่เป็นของน้อง ก็จะรับไม่ได้ ตอนนี้ศาลตัดสินแล้ว ทางคู่กรณีก็ยังไม่ได้มารับโทษตามคำสั่งของศาลตัดสิน นัดสุดท้ายวันที่ศาลตัดสินเขาไม่ได้มา และปฏิเสธว่าไม้ได้ทำ แถมยังบอกอีกว่ายิงผิดตัว แต่เรามีหลักฐานทุกอย่าง ศาลสั่งจำคุกเขาก็ไม่มารับโทษ ตนกลัวอยากได้ความเป็นธรรม

ในขณะที่ ทนายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ กล่าวต่อว่า ศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนศาลมีคำพิพากษา จำเลยให้คำรับสารภาพเสร็จ จำเลยก็ได้มีการประกันตัวออกไป แต่นัดสุดท้ายวันที่ศาลตัดสินเขาไม่ได้มา และปฏิเสธว่าไม้ได้ทำ แต่เรามีหลักฐานทุกอย่าง ศาลสั่งจำคุกเขาก็ไม่มารับโทษ และได้ส่งหมายจับไปยังสถานีตํารวจภูธรจังหวัด ผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีการติดตามจับกุม ศาลก็อนุมัติออกหมายจับแล้ว

ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะครบกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ สาเหตุที่เขาไม่มายื่นอุทธรณ์ ในคดีฆ่าโดยเจตนา โทษที่ได้รับ คือ ติดคุก แค่ 7 ปี แต่อย่างไรก็ต้องมีการเยียวยาผู้เสียหาย ถึงแม้เขาจะบอกว่า ยิงผิดตัว แต่ก็คือเจตนาตั้งใจที่จะฆ่าผู้อื่น โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ก็ต้องรับโทษหนัก จึงมาร้องกองปราบฯ เชื่อมั่นว่ากองปราบฯ จะมีประสิทธิภาพได้การจับกุมตัวผู้ต้องหามารับโทษ

นอกจากนี้ ยังทราบมาอีกว่า ผู้ต้องหาหนีไปอยู่กับผู้มีอิทธิพล อาจจะเป็นสาเหตุให้ตำรวจท้องที่ไม่กล้าไปดำเนินคดี กับเขาหรือเปล่า และถ้าไม่รีบจับเขามารับโทษ กลัวว่าเขาจะไปก่อเหตุซ้ำ เพราะเขาอาจจะคิดว่า ทำแล้วไม่ติดคุก และเขาพยายามหาเด็ก อายุกว่า 15 ปีมา รับโทษแทน ซึ่งผู้ก่อเหตุอายุ 25 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น จะประสานไปยัง พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าจะทำอย่างไร และจะไปประสาน สน.ท้องที่ให้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ