รวบอดีตลูกเรือตังเก สวมรอยเป็นเพื่อนที่สูญหาย ทำพาสปอร์ต บินไปทำงานต่างประเทศนานกว่า 20 ปี

รวบอดีตลูกเรือตังเก สวมรอยเป็นเพื่อนที่สูญหาย ทำพาสปอร์ต บินไปทำงานต่างประเทศนานกว่า 20 ปี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. , พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย,พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ,พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ และ พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.5 บก.ป.

ร่วมกันจับกุมตัว นายคมกริช ฯ อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1622/ 2567 ลงวันที่ 19 เมษายน 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม,ปลอมหนังสือเดินทางและใช้หนังสือเดินทางปลอม ”

สถานที่จับกุมหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ต.นครนายก อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก พฤติการณ์ ด้วยเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ5 กองบังคับการปราบปรามให้ดำเนินคดีกับนายคมกริช ฯ เนื่องจากได้แอบอ้างตนเป็นบุคคลอื่น สวมรอยใช้บัตรประชาชนไปทำหนังสือเดินทางที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี2563 โดยนายคมกริช ฯ สวมบัตรประชาชนของนายสนั่น ฯ มาขอทำหนังสือเดินทางของนายสนั่น ฯ

จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติการทำหนังสือเดินทางและข้อมูลทะเบียนราษฎร์จากกรมการปกครอง พบว่าเอกสารที่นายคมกริช ฯ นำมายื่นนั้นเป็นของนายสนั่นฯ แต่ใส่ภาพใบหน้าเป็นของนายคมกริชฯ เพื่อแอบอ้างสวมรอยเป็นนายสนั่นฯ ซึ่งขณะที่นายคมกริชฯ มายื่นเอกสารเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารมีปัญหาขอตรวจสอบ นายคมกริช ฯ จึงได้แอบหลบหนีออกจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ แล้วขึ้นเครื่องบินกลับมายังประเทศไทยทันที เจ้าหน้าที่กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จึงแจ้งมายังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายคมกริชฯ ฐานปลอมเอกสารแอบอ้างสวมรอยเป็นนายสนั่น ฯ ซึ่งเป็นบุคคลสูญหายไปกว่า 40 ปี ขณะไปทำงานเป็นลูกเรือตังเก ที่ จ.สมุทรสาคร หลังจากนายคมกริชฯ เดินทางกลับมาประเทศไทย ทราบว่าถูกแจ้งความดำเนินคดีและออกหมายจับเรื่องปลอมเอกสารราชการ จึงหลบหนีไปพักอาศัยที่ จ.นครนายก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่านายคมกริชฯ หลบหนีไปพักอาศัยกับพี่สาวที่ อ.เมือง จ.นครนายก จึงไปตรวจสอบพบนายคมกริชฯ กำลังเดินออกมานอกบ้านไปทำธุระ ก่อนจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.5 บก.ป.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายคมกริชฯ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อปี2532 ตนเองไปทำงานเป็นลูกเรือตังเกที่ จ.สมุทรสาคร ระหว่างนั้นได้รู้จักกับนายสนั่น ฯ ทำงานเป็นลูกเรือด้วยกัน อยู่มาวันหนึ่งนายสนั่นฯ ออกเรือหาปลาไปกับเรืออีกลำ ซึ่งตนไม่ได้ไปด้วยเมื่อเรือลำดังกล่าวกลับเข้าฝั่งได้รับแจ้งจากเพื่อนบนเรือว่าระหว่างหาปลาอยู่กลางทะเลเกิดพายุคลื่นลมแรง ทำให้นายสนั่นฯ พลัดตกเรือจมหายไปในทะเลลึก รออยู่หลายวันก็ไม่พบศพของนายสนั่นฯ เจ้าของเรือจึงเดินทางกลับเข้าฝั่ง ตนเองเป็นเพื่อนสนิทนายสนั่นฯ จึงเก็บของใช้และเอกสารของนายสนั่นฯไว้ จากนั้นได้ลาออกจากลูกเรือตังเก และได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย โดยแอบทำงานแบบผิดกฎหมาย ถูกจับกุมส่งกลับประเทศไทยและถูกขึ้นบัญชี(แบล็กลิสต์) ห้ามเข้าประเทศ หลังจากกลับมาประเทศไทย ตนเองจึงได้นำสำเนาเอกสารบัตรประชาชนของนายสนั่นฯ ไปทำบัตรประชาชนและหนังสือเดินทาง โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองเป็นนายสนั่น ฯ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เชื่อว่าตนเองเป็นนายสนั่น ฯ จึงทำบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางให้ ตนเองจึงใช้บัตรประชาชนชื่อนายสนั่น ฯและหนังสือเดินทางชื่อนายสนั่น ฯ แต่รูปภาพในบัตรเป็นตนเอง ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียอีกครั้ง จนถึงปี 2563 ตนเองไปขอทำหนังสือเดินทางใหม่แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเอกสารของตนมีปัญหา ตนเองสงสัยว่าเจ้าหน้าที่น่าจะรู้ความจริงว่าตนไม่ใช่นายสนั่น ฯ จึงรีบหลบหนีกลับมาประเทศไทย ก่อนจะมาถูกจับกุมในที่สุด

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย การแอบอ้างใช้เอกสารของคนอื่นไปใช้งานมีความผิดอาญามีโทษจำคุก

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ