DSI ส่งตัวกรรมการบริษัทเครือข่ายเกาหลีใต้ นอมินีรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ถึงมืออัยการเพื่อดำเนินคดีแล้ว

DSI ส่งตัวกรรมการบริษัทเครือข่ายเกาหลีใต้ นอมินีรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ถึงมืออัยการเพื่อดำเนินคดีแล้ว

วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567) กองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจโท เสฎฐวุฒิ สายป้อง หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีพิเศษที่ 69/2562 และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษนำตัวนายมินวู (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้มีพฤติการณ์ร่วมกับผู้จัดการฝ่ายการเงินสัญชาติเกาหลีใต้ของบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นลูกน้องได้ดำเนินการให้พนักงานบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นคนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นในบริษัทโดยไม่มีการชำระค่าหุ้นจริงเพื่อให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็นไปตามกฎหมายกำหนด ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดีกับบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (ประเทศเกาหลีใต้) ที่ได้เข้ามาประกอบกิจการก่อสร้างในประเทศไทย โดยการซื้อกิจการและเข้าถือหุ้นในบริษัท พอสโก เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัดและมีพฤติการณ์ให้คนไทยประกอบด้วยพนักงานบริษัทของตนและพนักงานสำนักงานรับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยบริษัทฯ มีการทำสัญญาเกี่ยวกับการก่อสร้างกับบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยหลายบริษัท มีรายได้ตามวงเงินในสัญญา รวมกันกว่า 9,000 ล้านบาท แต่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล โดยอ้างว่าขาดทุนมาโดยตลอด การสอบสวนเสร็จสิ้นมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวมทั้งสิ้น 12 ราย ในฐานความผิด “เป็นคนต่างด้าวร่วมกันประกอบธุรกิจ โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนฯเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนต่อกฎหมายเป็นคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าว ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนฯ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในนิติบุคคลเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นกรรมการฯ รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ของนิติบุคคลฯ”อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ต่อมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ถูกจับกุมได้ที่บริเวณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ขณะจะเดินทางออกนอกประเทศ และคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษกองคดีความมั่นคงได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งพนักงานอัยการในวันนี้

ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ นครบาล รายงาน

:: ร่วมแสดงความคิดเห็นกับสิ่งนี้

:: เนื้อหาข่าวที่น่าสนใจ